MIZUNO WAVE EMPEROR 3 รองเท้าวิ่งสำหรับขาแรง
เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
24 Jul 2018
- Shares:
ถ้าย้อนไป 4 ปีก่อนที่วงการวิ่งจะบูมสุดขีดในปัจจุบัน รองเท้าวิ่งทำความเร็วทั้งระยะมินิจนถึงฟูลมาราธอน รองเท้ารุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักวิ่งเก๋าๆ สมัยนั้นคือ MIZUNO Wave Spacer โดยเฉพาะนักวิ่งในอดีตทั้งหลาย น่าจะรู้จักรุ่นนี้ของ MIZUNO ดี
จุดเด่นของรองเท้าวิ่งทรงนี้ คือความเบาของรองเท้า ซึ่งในอดีตมีอยู่ไม่กี่แบรนด์ ไม่กี่รุ่นที่จะทำรองเท้าได้เบาระดับนี้ ซึ่งความเบานี้เอง ทำให้รองเท้ารุ่น Wave Spacer สามารถใส่ลงงานแข่งวิ่งทำความเร็ว ทำ Pace โหดๆ ได้ดี ตัวผู้เขียนเองก็เคยใช้ MIZUNO Wave Spacer ลงแข่งรายการอาล์ฟมาราธอนแรกในชีวิตด้วยการทำเวลาต่ำกว่า 1 ชั่วโมง 45 นาที มันเบาจนทำให้เราสามารถลด Pace ในการวิ่งลงได้ถึง 0.2 นาทีต่อกิโลเมตร เมื่อเทียบกับการใช้รองเท้าซ้อม ซึ่งพื้นหนาและหนัก
0.2 นาทีต่อกม. อาจดูไม่เยอะมาก แต่ถ้ามันสามารถลด AVG Pace จาก 6:10 เป็น 5:50 หรือ 5:10 เป็น 4:50 ความรู้สึกฟินหลังการวิ่งนี่คนละเรื่องเลย
ปัจจุบันรองเท้าวิ่งรุ่นที่มาแทนที่ Spacer คือรุ่น Emperor 3 ซึ่งมีน้ำหนักราวๆ ข้างละ 200 กรัม ซึ่งเป็นรุ่นที่มีน้ำหนักเกือบเบาสุดของแบรนด์ MIZUNO แล้ว ตัวเบาสุดจริงๆ ชื่อรุ่นว่า Ekiden ซึ่งมีน้ำหนักต่อข้างไม่ถึง 150 กรัม
จุดเด่นของรองเท้า Wave Emperor คือเรื่องของน้ำหนักที่เบา ช่วยประหยัดแรงในการยกเท้าแต่ละก้าวของนักวิ่ง ว่ากันว่านักวิ่งทักษะสูงๆ จะมีความถี่ในการก้าว หรือเรียกว่ารอบขา Cadence สูงมากกว่า 200 ก้าวต่อนาทีในการวิ่งระยะกลาง หรือมากกว่า 180 ก้าวต่อนาทีในการวิ่งระยะมาราธอน ซึ่งการใช้รองเท้าที่เบาลงจะทั้งช่วยประหยัดแรงทุกย่างก้าว และเซฟกำลังขาไม่ให้ล้าเกินไปเมื่อวิ่งเป็นเวลานานๆ
แต่มีดีก็ต้องมีเสีย เพราะความเบาจะต้องแลกมาด้วยความบางของรองเท้าด้วย จึงจะสามารถออกแบบรองเท้ารุ่นนี้ให้เบาลงได้ โดยผู้เชี่ยวชาญของ MIZUNO แนะนำรองเท้ารุ่นนี้ให้นักวิ่งสมัครเล่นใช้วิ่งระยะอย่าไกลมาก ความบางของรองเท้าจะทำให้เกิดการบาดเจ็บระหว่างวิ่งได้ แต่สำหรับนักวิ่งประสบการณ์สูง สามารถใช้ลงแข่งได้ทั้งระยะ 10 กม. จนถึงระยะมาราธอน
อย่างที่บอกไว้ว่า ความเบาของรองเท้ารุ่น Emperor 3 ทำให้การออกแบบพื้นรองเท้าต้องมีระบบ Cushion น้อยลงไปด้วย ทำให้รองเท้ารุ่น Emperor 3 ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
โดยการพิจารณาความเหมาะสมของนักวิ่งที่สามารถใช้รุ่นนี้ได้ น่าจะเป็นที่มีน้ำหนักตัว หรือค่า BMI อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้แรงกระแทกแต่ละก้าวที่วิ่งไม่มากเกินไป และเป็นนักวิ่งที่รอบขาจัดๆ ลงเท้าได้แผ่วเบา จังหวะวิ่งตัวไม่เด้งขึ้นลงในแนวดิ่งมาก จะใช้รองเท้าวิ่งรุ่นนี้ได้อย่างมีประโยชน์สูงสุด
แม้ว่า MIZUNO Wave Emperor 3 จะใส่ระบบป้องกันแรงกระแทก Cushion ลงไปไม่มากนัก แต่ก็ยังพอมีบ้าง เพื่อช่วยรับแรงกระแทกในการวิ่งระยะทางไกลๆ อย่างมาราธอน

พื้นรองเท้าลายแบบนี้ มักพบเห็นในรองเท้าทำตวามเร็วที่มาจากญี่ปุ่น
เทคโนโลยีต่างๆ ที่อยู่ในรองเท้ารุ่น Emperor 3 ประกอบด้วย
Wave
Unique technology that provides both cushioning and stability and can be engineered for all types of runners
G3 outsole
A performance outsole component that enhances traction where needed most.
U4ic midsole
A unique midsole compound that rides and cushions like Mizuno’s AP+ midsole, but is approximately 30% lighter without any loss of comfort or performance.
X10 carbon rubber
The most durable carbon rubber that allows for longer wear in high impact areas and supplements traction at heel strike.
โดยสรุป Emperor 3 เป็นรองเท้าวิ่งน้ำหนักเบาที่ยังมีระบบรองรับแรงกระแทกช่วยเล็กน้อย สำหรับนักวิ่งที่ลงเท้าได้อย่างนุ่มนวล เทคโนโลยี Wave ซึ่งเป็นเทคโนโลยีหลักของแบรนด์ Mizuno ช่วยกระจายน้ำหนักให้แรงกดแผ่กระจายเต็มเท้า แล้วยังช่วยให้เกิดการส่งพลังผลักให้มีแรงส่งไปด้านหน้า เพื่อใช้สำหรับใส่ลงแข่งวิ่งเพื่อเน้นทำความเร็วตามที่ต้องการ