นักกอล์ฟท่านใดที่มองหาเหล็กที่มีคุณสมบัติตีง่าย และได้ระยะทางไกล โดยไม่ติดว่าขนาดใบต้องไม่ใหญ่มาก ต้องหาโอกาสลองเหล็ก 718  AP1 รุ่นใหม่ล่าสุดของแบรนด์ Titleist

     อย่างที่เราทราบกันอยู่ว่า ในซีรี่ย์ของเหล็กตระกูล 718 ที่ออกมาในปีนี้ มีทั้งหมด 6 รุ่น ไล่เรียงตั้งแต่ MB , CB , T-MB , AP2 , AP3 และ AP1 ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีขนาดของใบ ออฟเซ็ตที่แตกต่างกัน และตีง่าย ได้ระยะไกล ไล่เรียงจากน้อยไปหามาก ตามความต้องการของนักกอล์ฟ ว่าต้องการเน้นเรื่องไหนเป็นพิเศษ ก็เลือกเหล็กให้ตรงกับสไตล์ของตัวเอง

     แต่หากท่านนักกอล์ฟต้องการเน้นแค่ ง่าย และระยะทางไกล รุ่น AP1 คือคำตอบสุดท้าย ด้วยเหตุผลว่า เหล็กรุ่นนี้ใส่ทุกฟังก์ชั่นการออกแบบ เพื่อวัตถุประสงค์หลัก 2 ข้อนี้แบบไม่มีกั๊ก

     การออกแบบขนาดใบใหญ่ ฐานใบหนา ออฟเซ็ตมากที่สุดในบรรดา 6 รุ่น ทำให้เหล็กรุ่นนี้ตีง่าย ชดเชยความผิดพลาดดี และสแควร์หน้าไม้ง่ายที่สุดในจำนวน 6 รุ่น

     นักกอล์ฟที่มีปัญหาตีไม่แม่น ยังอิมแพคไม่ค่อยเข้ากลางหน้าไม้ จะได้ประโยชน์จากขนาดใบที่ใหญ่ ช่วยชดเชยความผิดพลาดเมื่อตีไม่เข้ากลาง Sweet Spot ส่วนนักกอล์ฟที่ยังมีปัญหาตีหลังลูก

     การออกแบบฐานใบให้กว้าง ใหญ่ ช่วยลดอาการขุดดินหลังลูก หรือ ฉึก ทำให้ช็อตหลังลูกยังพอได้ระยะทางอยู่ ไม่เสียหายมากนัก (ต่างจากเหล็กใบบาง เมื่อหลังลูก ใบเหล็กจะขุดดินลึก จนทำให้อิมแพคไปแล้ว ลูกกอล์ฟแทบไม่ลอยออกไปไกลจากตำแหน่งเดิมมากนัก) 

     ส่วนนักกอล์ฟที่มีปญหาตีท๊อป การออกแบบฐานใบกว้างและถ่วงด้วยทังสเทน จะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง ทำให้อิมแพ็คแบบท๊อปๆ ลูกยังลอยสูง ทำระยะได้พอสมควร และสุดท้าย นักกอล์ฟที่มีปัญหาตีเฟด สไลซ์  การออกแบบออฟเซ็ตให้มากขึ้น จะช่วยสร้างโอกาสให้หน้าเหล็กเข้ากระทบลูก เปิดน้อยลง หรือสแควร์ได้ดีขึ้น (ใบเหล็กที่ออฟเซ็ตมาก นักกอล์ฟมือดีที่มีทักษะตีดรอว์ธรรมชาติดีอยู่แล้ว จะไม่นิยมใช้ เพราะช็อตที่กังวลว่าจะดรอว์มากเกินไป ส่วนมือใหม่ที่ยังเฟด สไลซ์อยู่ การมีออฟเซ็ตกลับเป็นข้อดี ช่วยทำให้นักกอล์ฟกลุ่มนี้ตีง่ายขึ้น ตรงขึ้น)    

     718 AP1 เหล็กรุ่นนี้มีความชัดเจนในตัวคุณสมบัติมากที่สุด คือ เป็นเหล็กใบขนาดใบใหญ่ เน้นง่ายที่สุด และไกลที่สุด โดยการถ่วงทังสเทนเฉลี่ย 58.5 กรัม ใช้วัสดุทำหน้าเหล็กเป็น 17-4 Stainless Steel ออกแบบองศาค่อนข้างสตรองมาก โดยทำองศา PW ต่ำถึง 43 องศา ซึ่งจะใช้ช่วยแก้ปัญหานักกอล์ฟที่ตีงัดโด่ง ลดความโด่งของลูกลง และทำให้ค่า Dynamic Loft ตอนอิมแพคต่ำลง ช่วยเพิ่ม Smash Factor ให้สูงขึ้นทำให้ตีได้ระยะดีขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้เหล็กองศาปกติ

     รูปทรงใบเหล็กแบบโปรเกรสซีฟ ความยาวใบเหล็กยาวแบบไล่ระดับ จากเหล็กยาว ที่ใบเหล็กมีโพรงที่ด้านใน ไปถึงเหล็กกลาง และเหล็กสั้น ที่มีช่องว่างด้านหลังแบบ undercut ใบเหล็กมีออกแบบที่แตกต่างกันในเหล็กแต่ละเบอร์ เพื่อให้ตีได้ไกลที่สุด และวิถีลูกที่ดีที่สุด จากเหล็กทุกชิ้นในชุด

      หน้าไม้บาง ความเร็วได้สูง และไม่มีวัสดุรองรับด้านหลัง สร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงยิ่งขึ้น ใบเหล็กแบบมีโพรงด้านในของเหล็กยาว ออกแบบโดยนำเทคโนโลยีที่ถูกใช้ในชุดเหล็กรุ่นพิเศษ Titleist Concept C16 ทำให้นักกอล์ฟตีได้ระยะแครี่ได้ไกลที่สุด ในการเล่นช็อตยาวเข้ากรีน

     การออกแบบโครงสร้างใบเหล็กรุ่นนี้ ยังออกแบบด้วยความพิถีพิถัน โดยเหล็กยาว 4-5 ใช้โครงสร้าง Hollow Body Construction สร้างใบเหล็กให้มีขนาดไม่ใหญ่ไป แต่ยังมีค่า M.O.I. สูงๆ ทำให้เหล็กยาวตีง่ายขึ้น ส่วนเหล็ก 6-PW ออกแบบเป็น Undercut  Cavity Construction โครงสร้างที่มีค่า M.O.I. สูง และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ และทั้งเหล็กยาวจนถึงเหล็กสั้น มีการถ่วงทังสเทนช่วยปรับจุดศูนย์ถ่วงให้ต่ำลง ทำให้เหล็กทั้งเซตตั้งแต่เหล็กยาวจนถึงเหล็กสั้น มีคุณสมบัติตีง่ายมาก และได้ระยะทางที่ไกลจริงๆ

     รุ่นนี้แนะนำให้เป็นพิเศษ สำหรับนักกอล์ฟมือใหม่ หรือมือกลางๆ ที่ต้องการตีกอล์ฟอย่างสบายใจ แนะนำว่าใช้รุ่นนี้ไม่ผิดหวังครับ

     เหล็กที่วางตลาด: 4-P, 48º, 53º

 สำหรับราคาขายก้านเหล็ก N.S.Pro 950 : ราคาตั้ง 5,875 บาทต่อชิ้น และคาดว่าจะขายที่ราคา 4,700 บาท ต่อชิ้น ราคา MAP แบบชุด 7 ชิ้น (5-W) 32,900 บาท ส่วนกราไฟท์ ราคาตั้ง 6,500 บาทต่อชิ้น ราคาขายแบบชุด 7 ชิ้น (5-W) 36,400 บาท 

เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

Chalermwong B.Kajorn

ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.

ติดตามข้อมูล ความรู้ต่างๆ จากเราได้ที่

https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/

https://www.facebook.com/cing8333

https://line.me/R/ti/p/%40golferonline

หรือค้นหาเพื่อนใน line โดยคีย์คำว่า @golferonline

17 / 10 / 2017

  Tags : Titleist Iron Irons  

สอบถามเพิ่มเติม