Titleist 718 Mix & Match
เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
09 Sep 2017
- Shares:
ผมเชื่อว่ามีนักกอล์ฟหลายคนที่เห็นเหล็กรุ่นใหม่ล่าสุดของ Titleist แล้วรู้สึกชอบและเข้าตาหลายรุ่น จนถ้าให้เลือกรุ่นใดรุ่นหนึ่งที่ชอบที่สุด คงเลือกยาก ยิ่งถ้าได้เคยอ่านสเปคของแต่ละรุ่นใน http://golferdigital.com/article/506/ แล้ว ยิ่งตัดสินใจเลือกยากมากๆ และหากใครได้ลองฟิลลิ่งครบทั้ง 6 รุ่นแบบผมแล้ว ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
ครั้งแรกที่ผมเห็นเหล็กรุ่นใหม่ล่าสุดในซีรี่ย์ 718 ของ Titleist เรียงเป็นหน้ากระดานในลิ้งค์โหลดภาพใบเหล็กสำหรับสื่อ ผมตัดสินใจได้ทันทีว่าจะเลือกรุ่น 718 T-MB ด้วยความชื่นชอบในการออกแบบทางวิศวกรรม มาตั้งแต่รุ่น 716 T-MB ซึ่งคนออกแบบได้สร้างใบให้สวย ตีง่าย และไกลได้อย่างน่าทึ่ง
แต่หลังจากที่ได้มีโอกาสอ่านสเปคอย่างละเอียด และได้เห็นโปรช้างธงชัย ใจดี ซ้อมตีรุ่น 718 T-MB และ 718 AP3 ผมก็เริ่มแบ่งใจมาสนใจรุ่น 718 AP3 เพราะโปรช้าง ทำระยะ AP3 ไกลกว่า 718 T-MB ราว 10 หลา
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อทราบว่า หน้าเหล็กของรุ่น 718 AP2 เหล็กรุ่นที่ผมหลงใหลมานานกว่า 10 ปี นำวัสดุ SUP10 ( Japanese Spring Steel ) มาใช้ทำให้เหล็กหน้าเด้ง แถมยังได้ลองทดสอบเหล็กทุกรุ่นในซีรี่ย์ 718 แล้ว พบว่า ชอบฟิลลิ่งในการอิมแพคของ 718 AP2 ที่สุดแล้ว ทำให้เลือกไม่ถูกระหว่าง T-MB รักแรกพบ AP3 รักที่คุณงามความดี และ AP2 ถ่านไฟเก่า
ผมกลายเป็นนักกอล์ฟสามใจในทันที
แต่ปัญหานี้ ผมสามารถจัดการมันได้ ด้วยการบริหารจัดการความรักทั้ง 3 เส้า ของผมด้วยการจัดเซตเหล็กของผมให้มีเหล็กทั้ง 3 โมเดลในถุง แบ่งหน้าที่กันตามจุดเด่นของตัวเอง
โดยผมเลือก...
เหล็ก 3
เป็น 718 AP3 เอาไว้ใช้เล่นช็อตยาว ทำระยะแถว ๆ 210 หลา
เหล็ก 4-6
เป็น 718 T-MB สำหรับเพิ่มระยะในเหล็กกลาง เพื่อให้สามารถหยิบเหล็กสั้นลงครึ่งเบอร์ เพื่อตีแอพโพสช็อตในหลุมพาร์ 4 ยาว
เหล็ก 7-PW
ใช้ 718 AP2 เป็นกลุ่มเหล็กที่ผมใช้ตีขึ้นกรีนบ่อยที่สุด ในหลุมพาร์ 4 ความยาวปกติ ความหนักแน่น หนึบและระยะที่สม่ำเสมอ ของ AP2 จะทำให้ได้ความรู้สึกดี สนุก ละมันส์พะยะค่ะ
การจัดเซตแบบชุดผสมแบบ Combo Set ที่ผมกำลังทำอยู่ ไม่ใช่เพิ่งมีไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่มันมีมาร่วม 10 ปีแล้ว ซึ่งครั้งหนึ่งผมก็เคยทำแบบนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว แต่มันมีปัญหาติดขัดตรงที่ รอยต่อระหว่างเหล็ก องศา วิถีลูก และความยากง่าย มันทิ้งห่างกันเยอะไป ทำให้เวลาต้องตีขึ้นกรีนที่ระยะระหว่างรอยต่อเหล็ก 2 รุ่น มีปัญหาครับ
แต่สำหรับเหล็กซีรี่ย์ 718 ช่องว่างทั้งเรื่องระยะและความยากง่ายของเหล็กแต่ละรุ่นค่อนข้างชิดกัน ทำให้ปัญาที่ผมเคยเจอในอดีตหมดสิ้นไป
ที่สำคัญมีโปรในพีจีเอทัวร์ ก็ผสมผสานเหล็กมากกว่า 1 รุ่นในเซตของตัวเอง
เช่น
จอร์แดน สปีธ T-MB #4 , AP2 #5-9
จัสติน โธมัส AP3 #3 , CB #4 , MB #5-9
อดัม สก๊อต T-MB #3 & #5 , MB #5-9 , ( บางรายการ AP3 #3 & #5 )
จิมมี่ วอล์คเกอร์ T-MB #2 , AP3 #3 , MB #4-9
ตามสถิติโปรของ Titleist
ใช้เหล็ก 1 รุ่น 33%
ใช้เหล็ก 2 รุ่นผสมกัน 58%
ใช้เหล็ก 3 รุ่นผสมกัน 10%
และชุดเหล็กที่โปรในทัวร์เลือกใช้ มีสัดส่วนตามกราฟด้านล่างนี้
สำหรับนักกอล์ฟท่านใดที่ ชื่นชอบเหล็กในซีรี่ย์ 718 มากกว่า 1 รุ่น อาจลองผสมผสานเหล็กในเซ็ตตัวเอง ตามที่ชื่นชอบได้ครับ และแนะนำให้เลือกเหล็กที่อยู่ต่อกันให้เป็นรุ่นที่มีความยากง่ายอยู่ชิดกันด้วยครับ และหากมีโอกาสให้ลองนัดทีมงานฟิตติ้งของ Titleist มาจัดการฟิตติ้งเบอร์เหล็กช่วงรอยต่อ ให้ต่อกันให้สนิทด้วย จะทำให้คุณตีเหล็กชุดที่คุณ Mix & Match ขึ้นมา ได้ประสิทธิภาพสูงสุดครับ....
เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
Chalermwong B.Kajorn
ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.
ติดตามข้อมูล ความรู้ต่างๆ จากเราได้ที่
https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/
https://www.facebook.com/cing8333
https://line.me/R/ti/p/%40golferonline
หรือค้นหาเพื่อนใน line โดยคีย์คำว่า @golferonline
9 / 9 / 2017
Tags : Titleist Iron Irons