Titleist 917 Fairway Woods

เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

18 Sep 2016
  • Shares:

 

      หากคุณเป็นนักกอล์ฟที่ชื่นชอบการตีแฟร์เวย์ วูดที่ให้วิถีลูกฉีดๆ พุ่งอย่างทรงพลังทะลุทะลวง แบรนด์แรกที่คุณต้องนึกถึงเลยคือ Titleist แบรนด์ Titleist สร้างชื่อแฟร์เวย์ วูด วิถีพุ่งทะลุทะลวงตั้งแต่รุ่น PT15 เป็นแฟร์เวย์ วูดที่วิถีลูกพุ่งแบบฉีดยาสุดๆ และเป็นรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่มีการซื้อเก็บไว้เป็นคอลเลคชั่น แม้ว่าจะตีสุดยากก็ตาม

 

     แบรนด์ Titleist ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของวิถีลูกที่พุ่งทะลุทะลวงไว้อย่างดีเสมอมา เป็นเป็นตัวเลือกให้กันแฟนคลับที่ยังติดใจวิถีลูกของแฟร์เวย์ วูดแบรนด์นี้ แต่อย่างไรก็ตามระยะหลังๆ แบรนด์ Titleist ก็มีการออกแฟร์เวย์ วูดที่ตีง่ายให้วิถีลูกพุ่งสูง สำหรับนักกอล์ฟสมัครเล่นไว้ด้วย

     ดังนั้นทุกๆ ครั้งที่ Titleist ออกรุ่นใหม่ๆ  จะมีแฟร์เวย์ วูด 2 รุ่นให้เลือก 917F รุ่นใหม่ ก็มี 2 ตัวเลือกให้เล่นเช่นกัน โดย Titleist 917F2 หัวใหญ่ ตีง่าย ให้วิถีลูกพุ่งสูง  และ 917F3 หัวเล็ก เล่นแต่งช็อคได้ดี วิถีลูกพุ่งต่ำ ทะลุทะลวง  

 

     ทั้ง 2 รุ่น ออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีหลักๆ แบบเดียวกันกับไดรเวอร์ 917D ซึ่งเขียนบรรยายละเอียดไปแล้วเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (กดที่ตัวอักษร 917 D เพื่ออ่านเรื่องของไดรเวอร์ )

     เทคโนโลยีหลักในแฟร์เวย์รุ่นนี้ประกอบด้วยเทคโนโลยีหลัก 2 เรื่องต่อไปนี้

 

1.Active Recoil Channel (ARC) 2.0 ร่องที่กว้าง ยาว และลึก ที่ฐานด้านล่าง ให้การยุบ และดีดตัวที่เหมาะสม ขณะหน้าไม้ปะทะลูก ทำให้ลูกกอล์ฟออกจากหน้าไม้ ด้วยความเร็วที่สูงขึ้น และสปินต่ำลง ทำให้ตีได้ไกลขึ้น รูปแบบของร่องได้ถูกออกแบบขึ้นใหม่ โดยร่องจะทะลุลงไปถึงด้านในหัวไม้ แล้วปิดด้วยยางอีลาสโทเมอร์ที่ด้านนอก ทำให้หน้าไม้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ให้การดีดตัวที่สม่ำเสมอขึ้น อันเป็นผลให้ความเร็วของลูกกอล์ฟเพิ่มขึ้นจากทั่วทั้งหน้าไม้

 

หน้าไม้ความหนาแบบไล่ระดับ ทำงานร่วมกันกับร่อง ARC 2.0 ให้ความเร็วลูกกอล์ฟที่สูงขึ้นเป็นอย่างมาก จากทั่วทั้งหน้าไม้ หน้าไม้แบบฟอร์จที่สร้างความเร็วได้สูง ส่วนกลางหนาและบางลงแบบไล่ระดับไปโดยรอบ เพิ่มการดีดตัวของหน้าไม้ ให้ระยะทางที่ไกลขึ้น ในช็อตที่พลาดกลางหน้าไม้


 

การออกแบบหัวให้มีค่า MOI สูง ออกแบบให้ตำแหน่งของจุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ หัวไม้มีความเสถียร และชดเชยความผิดพลาดสูง โดยรักษาความเร็วของลูกกอล์ฟ ในช็อตที่ตีพลาดกลางหน้าไม้ ทำให้ตีได้ไกลอย่างสม่ำเสมอยิ่งขึ้น

 

2.แท่งน้ำหนัก SureFit CG เทคโนโลยีล่าสุด และคอไม้ SureFit  ของ Titleist เมื่อทำงานร่วมกันจะปรับแต่งวิถีลูกได้สูงสุด 48 รูปแบบ เพื่อการฟิตติ้งที่แม่นยำที่สุด สำหรับนักกอล์ฟทุกคน

 

- คอไม้ SureFit ที่ออกแบบเฉพาะของ Titleist สามารถปรับแต่งองศาหน้าไม้ และมุมไล ได้ 16 ตำแหน่งอย่างอิสระต่อกัน เพื่อการปรับแต่งวิถีลูกให้เหมาะสมที่สุด รวมถึงให้ประสิทธิภาพในการควบคุมลูกที่ดีขึ้น และตีได้ไกลขึ้น.


 

- SureFit CG ระบบน้ำหนักที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ ให้คุณสมบัติในการปรับแต่งที่แม่นยำ จากระบบการปรับเปลี่ยนน้ำหนักที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้สปิน และวิถีลูกเหมาะสม เพื่อวิถีลูกที่สม่ำเสมอ และแม่นยำยิ่งขึ้น แท่งน้ำหนัก SureFit CG ถูกใส่ลงไปในหัวในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด โดยใส่ไว้ในแนวเฉียงส่วนท้ายสุดของฐานด้านล่าง สามารถปรับน้ำหนักจากตรงกลาง (Neutral) ไปที่ตำแหน่งดรอว์ (Draw) โดยส่วนของน้ำหนักจะอยู่ด้านโคนและลึกไปด้านหลังยิ่งขึ้น หรือปรับไปที่ตำแหน่งเฟด  (Fade) ที่น้ำหนักจะอยู่ส่วนปลาย และมาทางด้านหน้ามากขึ้น ทุกตำแหน่งของการปรับแท่งน้ำหนัก SureFit CG มีผลต่ออัตราการปิดของหน้าไม้ และไซด์สปินที่เกิดจาก gear-effect ทำให้นักกอล์ฟสามารถปรับวิถีลูก และลักษณะของช็อตที่ต้องการ ด้วยการเข้าปะทะลูก และสปินที่สม่ำเสมอ นอกจากนี้ การออกแบบของ SureFit CG – ไม่ทำให้หัวมีน้ำหนักในตำแหน่งที่ไม่ต้องการมากเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับแบรนด์คู่แข่ง ที่เป็นระบบ “ราง” – ทุกการปรับตำแหน่ง CG ไม่ทำให้ค่า MOI ที่สูงของหัวต่ำลง ทำให้ 917 ตีได้ไกล และชดเชยความผิดพลาดสูง SureFit CG ยังทำให้เราสามารถปรับน้ำหนักหัว เพื่อน้ำหนักสวิงที่เหมาะสมกับก้านรุ่นต่างๆ หรือเพื่อให้ตรงตามความต้องการของนักกอล์ฟ(+/- 4 กรัม) จากแท่งน้ำหนักมาตรฐาน

 

 

Active Recoil Channel 2.0 ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ และเทคโนโลยี SureFit CG ทำให้มีประสิทธิภาพที่ครบถ้วนทุกด้านที่นักกอล์ฟต้องการ ทั้งตีได้ไกล ชดเชยความผิดพลาดสูง และให้วิถีลูกที่ควบคุมได้ดี พร้อมมีรูปลักษณ์ เสียง และความรู้สึก ที่นักกอล์ฟในทัวร์ชื่นชอบ

 

“สิ่งที่เราให้ความสำคัญมากที่สุดในการพัฒนาไม้กอล์ฟ Titleist นั่น คือ ประสิทธิภาพ และนี่คือกลยุทธหลักของเรา” กล่าวโดย Dan Stone, Vice President, Titleist Golf Club R&D “เราให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพมากที่สุด และตั้งเป้าหมายในการวางตลาดผลิตภัณฑ์ใหม่ทุกครั้งว่าต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เท่าที่เราเคยทำมา เป็นความท้าทาย และงานที่ยาก ไม่เพียงเฉพาะการใช้นวัตกรรม และวิธีการผลิตที่แตกต่างออกไปเท่านั้น  เราต้องทำการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ใช้เวลาในวิจัยและพัฒนาอย่างยาวนาน นี่เป็นสิ่งที่เรายึดมั่นเสมอมา เราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สมบูรณ์แบบอย่าง 917 ซึ่งเราพูดได้อย่างมั่นใจว่า มันตีได้ไกลที่สุด ชดเชยความผิดพลาดสูงสุด ให้ประสิทธิภาพดีที่สุด และตีง่ายที่สุด เท่าที่หัวไม้ Titleist เคยมีมา”

 

แฟร์เวย์ วูด 917F2 และ 917F3 วางตลาดพร้อมกันทั่วโลก 21 ตุลาคมนี้ หัวไม้แฟร์เวย์ Titleist 917 ให้ความเร็วลูกกอล์ฟสูงขึ้น ทำให้ ตีได้ไกลขึ้น พร้อมให้การชดเชยความผิดพลาดที่ดีเยี่ยม รวมถึงเป็นผู้นำในด้านคุณสมบัติในการปรับแต่ง เพื่อปรับวิถีลูกให้เหมาะสมที่สุดกับนักกอล์ฟ และยังให้ เสียง และความรู้สึก แบบที่นักกอล์ฟในทัวร์ชื่นชอบ อันเป็นผลมาจากเทคโนโลยีหลักเหล่านี้:

 

 

- เทคโนโลยีการปรับแต่งของ 917 นำการปรับแต่งที่ในอดีต มีให้สำหรับนักกอล์ฟในทัวร์ โดยทัวร์แวนของ Titleist เท่านั้น มาสู่ตลาด สำหรับนักกอล์ฟทั่วไป ทีมคลับฟิตติ้งของ Titleis สามารถใช้คอไม้ SureFit และแท่งน้ำหนัก SureFit CG รวมกับก้านที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ในการฟิตติ้งหัวไม้แฟร์เวย์ 917 ที่เหมาะสมกับผู้เล่นได้อย่างแม่นยำ และเหมาะสมที่สุด

 


ความแตกต่างของ 917F2 และ 917F3

 

917F2 ออกแบบให้มีประสิทธิภาพในการเล่นสูงรอบด้าน ชดเชยความผิดพลาดสูง และตีได้ไกล เป็นหัวไม้แฟร์เวย์ที่มีขนาดใหญ่ 917F2 ให้สปินสูงกว่า มุมเหินสูงกว่า และวิถีลูกสูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบ 917F3 (องศาหน้าไม้ที่วางตลาด 13.5º, 15º, 16.5º, 18º และ 21º)

 

- 917F3 ออกแบบให้เล่นได้อย่างหลากหลาย และให้ประสิทธิภาพสูงในการควบคุมทิศทางเป็นหัวไม้แฟร์เวย์ที่มีขนาดกะทัดรัด 917F3 ให้สปิน และวิถีลูกพุ่งต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับ 917F2 (องศาหน้าไม้ที่วางตลาด 13.5 และ 15º)

 

- ในการทดสอบโดยนักกอล์ฟ พบว่านักกอล์ฟที่ใช้หัวไม้แฟร์เวย์ 917F2 และ 917F3 รุ่นที่เหมาะสม สามารถสร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงขึ้น 0.3-0.5mph ตีได้มุมเหินสูงขึ้น 0.25-0.5º เมื่อเปรียบเทียบกับ 915F หรือ Fd – โดยเฉลี่ย ตีได้ระยะแครี่ไกลขึ้น 3 ถึง 7 หลา หัวไม้แฟร์เวย์ 917 สร้างความเร็วที่สูงได้อย่างสม่ำเสมอมากกว่า และให้วิถีลูกสูงกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับหัวไม้แฟร์เวย์ 915 การปรับแต่งแท่งน้ำหนัก SureFit CG สำหรับนักกอล์ฟแต่ละคน มีการปรับแต่งให้เหมาะสมแตกต่างกันไป โดยเฉลี่ยในอัตราที่ใกล้เคียงกัน
 

 

เทคโนโลยีของ 917 รุ่นใหม่ โดยทีมวิจัยและพัฒนา: “โดยทั่วไป หัวไม้แฟร์เวย์ เป็นหนึ่งในไม้กอล์ฟที่ตียาก สำหรับหัวไม้แฟร์เวย์ 917 เราออกแบบให้มัน เล่นได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น เป็นหัวไม้แฟร์เวย์ที่ตีง่ายยิ่ง และสร้างความเร็วได้สูง – ทั้งหมดนี้ ถูกนำมารวมกับไว้ในหัวไม้แฟร์เวย์รุ่นนี้” กล่าวโดย Stephanie Luttrell, Director, Titleist Metalwood Development “หัวไม้แฟร์เวย์ 915 ยกระดับทางประสิทธิภาพ ในด้านมุมเหิน และสปิน และเราไม่ต้องการพัฒนา 917 ให้มีสปินต่ำลง เราปรับสปินของ 917 ให้เหมาะสมจากตำแหน่งของ CG ที่ลึก ทำให้มีค่า MOI สูง นักกอล์ฟจะพบว่า 917 ให้มุมเหินที่สูงขึ้น และให้สปินแบบเดียวกับรุ่นก่อน หัวไม้รุ่นนี้ สามารถตีลูกลอยได้ง่ายขึ้น ให้ความเร็วลูกกอล์ฟสูงขึ้น และเพิ่มโอกาสให้คุณ สามารถตีได้ไกลขึ้น”

 

หัวไม้แฟร์เวย์ 917 สำหรับผู้เล่นในทัวร์: หัวไม้แฟร์เวย์ Titleist 917 ได้รับการยอมรับอย่างล้นหลาม และประสบความสำเร็จแล้ว ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพทั่วโลก การนำมาให้นักกอล์ฟในทัวร์ทดสอบ เริ่มต้นที่การแข่งขันกอล์ฟ PGA Tour รายการ John Deere Classic ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และหัวไม้แฟร์เวย์ 917 มากกว่า 75 หัว ถูกนำมาใช้แล้วในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพทั่วโลก

 

“ผมคิดว่าหัวไม้แฟร์เวย์ 917 รุ่นใหม่ เป็นหัวไม้แฟร์เวย์ที่ดีที่สุด เท่าที่ Titleist เคยมีมา” กล่าวโดย Jimmy Walker ที่ขณะนี้ ใช้หัวไม้แฟร์เวย์ 917F2 15º และ 917F2 18º ในการแข่งขัน “ผมทดลองใช้หัวไม้ 3 หลังจบการแข่งขัน PGA Championship และผมชอบมาก จากนั้นผมวัดผลอีกครั้งด้วยเครื่อง Trackman ที่สนามไดร์ฟของรายการ Firestone จากนั้นผมก็นำมันเข้าถุงกอล์ฟผมในทันที”

 

“หัวไม้แฟร์เวย์ 917F เป็นไม้ที่ใหม่ที่สุดในถุงกอล์ฟของผม และผมรักมันมาก” Justin Thomas กล่าวถึง หัวไม้แฟร์เวย์ 917F3 15º ของเขา “ผมสามารถสร้างความเร็วลูกกอล์ฟได้สูงขึ้น และต้องเพิ่มองศาจาก 14.25º ไปเป็น15º ตอนนี้ผมตีแครี่ได้ระยะ 270-280 หลา รวมระยะวิ่งของลูก ก็ประมาณ 290-300 หลา นอกจากนี้ ผมยังชอบความรู้สึกของมันด้วย”

 

นักกอล์ฟท่านอื่นๆที่ใช้หัวไม้แฟร์เวย์ 917 ลงแข่งขันแล้ว ประกอบด้วย Scott Piercy (917F2 13.5º), Webb Simpson (917F2 15º) และ Geoff Ogilvy (917F2 16.5º, 917F2 21º).

 

ก้านสต็อกที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากทัวร์: วางตลาดพร้อมก้านสต็อก ประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่ 4 รุ่น ซึ่งเป็นก้านแบบเดียวกันกับก้านสำหรับโมดิฟายด์ที่มีแยกขายในตลาดกอล์ฟ มาจากบริษัทผู้ผลิตก้านที่ได้รับความนิยมสูง ใน PGA Tour ทั้งสี่รุ่น ให้ประสิทธิภาพ ที่ครอบคลุมกลุ่มนักกอล์ฟทุกแบบ และทุกความเร็วสวิง
 

ก้านสต็อก ประกอบด้วยก้าน Aldila Rogue M*AX 75 (มุมเหินปานกลาง); Mitsubishi Diamana Limited D+ White 80 (มุมเหินต่ำ), Mitsubishi Diamana Limited S+ Blue 70 (มุมเหินปานกลาง) และ Mitsubishi Diamana Limited M+ Red 60 (มุมเหินสูง)

 

นอกจากนี้ นักกอล์ฟยังสามารถสั่งซื้อก้านคัสตอมรุ่นอื่นๆ ตามต้องการจาก Titleist โดยมีรุ่นให้เลือกอย่างหลากหลาย

 

ราคา และการวางตลาด: หัวไม้แฟร์เวย์ Titleist 917 วางตลาดพร้อมกันทั่วโลก ที่ตัวแทนจำหน่ายของ Titleist ในวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดยมีราคาเต็มที่ 15,300 บาท และราคาที่คาดว่าจะขายตามร้านทั่วไป  12,240 บาท

 

ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก 

วัชระ กาฬภักดี – ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ และการตลาด Titleist, บริษัท แอคูชเน็ท กอล์ฟ (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-751-4082 ต่อ 443, 086-312-9033

 

Tags :  , Wood , Woods Fairway  FW  หัวไม้  Metal Wood

 

 


สอบถามเพิ่มเติม



SOCIAL SHARES

หากบทความนี้มีประโยชน์กับท่านหรือเพื่อนร่วมก๊วน ฝากกดแชร์ที่เครื่องหมาย F ด้านใต้ข้อความนี้ครับ ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านบทความของเรา


COMMENTS

OUR SPONSOR

OUR PARTNERS
  • partner 1
  • partner 2
  • partner 3
  • partner 4
  • partner 5
  • partner 6
  • partner 7
  • partner 8