2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้ลองทดสอบเจ้าตัว Optishot 2 ซึ่งดูราคาแล้วน่าสนใจมาก หมื่นต้นๆ ก็สามารถมี Golf Simulator ไว้เล่นสนุกๆ ภายในบ้านได้ เลยลองไปกดซื้อเจ้าเครื่องนี้ใหม่เอี่ยมจากเวบ amazon ได้ราคามา 13,826 บาท รวมค่าขนส่งและภาษีแล้ว ถูกจริงๆ  ได้ยินเพื่อนไปซื้อมาจาก ebay ได้ถูกกว่านี้อีก

     ตอนได้รับของมา ต้องยอมรับว่าเค้าออกแบบกล่องมาได้ดี สวยดูงามดูแพง และมีรายละเอียดการใช้งาน และการรับประกันครบถ้วนบนกล่อง

     ลองเปิดกล่องออกมาภายในประกอบไปด้วย แผ่นหญ้าเทียมสำหรับใช้ตี มีเซนเซอร์อินฟราเรด 2 แถว หลังลูกกับหน้าลูก ที 2 อัน ลูกโฟม 2 ลูก และสาย USB แต่ด้านในไม่มีแผ่นซอฟท์แวร์มาให้ ในกล่องเขียนให้ไปโหลด Software ในเวบไซท์ซึ่งก็ใช้เวลาโหลดไม่นานนัก ก็พร้อมสำหรับเล่นแล้ว

      วันที่ได้ลองก็มีโอกาสพกเครื่อง FlightScope ไปลองประกบดูเพื่อทดสอบความแม่นยำของตัวแปรต่างๆ ที่เจ้าตัว Optishot 2 ราคาหลักหนึ่งหมื่นต้นๆ จะมีความแม่นยำขนาดไหน

      ก่อนที่จะใช้งาน จะต้องมีการ Calibrate หัวไม้ต่างๆ เพื่อให้กระบวนการทดสอบเสร็จสมบูรณ์ดี

      ลองเหล็ก 8 10 ช็อตแรก ก็รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว เมื่อค่าที่ Face Angle ที่แสดงขึ้นมา บอกว่าหน้าไม้ผมเปิด (Open) ซึ่งจริงๆ แล้ว ปัญหาการตีเหล็กในปัจจุบันของผมคือ ตีดรอว์มากไป จนออกฮุคบ่อยๆ หน้าไม้ควรจะแสดงค่าออกมาว่า “ปิด” ไม่ใช่ “เปิด”

      หลังจากข้อมูลการตีเหล็ก 8 ขึ้นมาเป็นแบบนั้น ก็เลยลองทดสอบแบบ extreme เลยตั้งแต่การตีชุดแรกๆ ซึ่งวิธีการทดสอบนี้ ผมและเหล่าบรรดาโปรที่เล่นเครื่อง Launch Monitor บ่อยๆ นิยมใช้ทดสอบความแม่นยำของเครื่อง Launch Monitor คือ ตีให้ลูกสตาร์ทขวาแรงๆ แล้วม้วนเข้าซ้ายไปตกที่ซ้ายของเป้าหมาย  

      ผลปรากฏว่า Optishot 2 ยังคงอ่านว่าจุดตกของลูกอยู่ด้านขวาของเป้าหมาย และหน้าไม้ยังคงเปิดอยู่  โอเค!! ผมพอจะเดาออกแล้วว่า หลักการทำงานในการจับไม้กอล์ฟเป็นอย่างไร  

      ทดสอบแบบ Extreme ตั้งแต่ครั้งแรก ก็เข้าใจเลยว่า ทำไมโปรหลายคนที่เคยทดสอบเจ้าเครื่องนี้ บอกว่าไม่แม่น เพราะลักษณะการสวิงของโปรกอล์ฟส่วนใหญ่ Path จะไปทางขวา Inside Out และหน้าไม้ปิด Close เพื่อให้ช็อตเดินทางเป็นดรอวร์ช็อต ดังนั้นถ้า Optishot 2 อ่านข้อมูลตรงนี้ผิดพลาด ก็จะส่งผลให้สวิงของโปรกอล์ฟเพี้ยนไปครับ

      หลังจากทดสอบแบบ Extreme เสร็จแล้ว ก็ลองตีเล่นๆ โหมดอื่นดู ผมพบว่าถ้าเราไม่ต้องการเอาเจ้าเครื่องนี้ไว้ซ้อม แล้วคิดเสมือนว่าเครื่องนี้เอาไว้เล่นเกมส์ เปิดโหมดให้ตีแบบไม่ต้องตีลูก No Ball สนุกดีแฮะ โหมดนี้ผมสามารถสวิงลมแรงๆ ได้ค่าความเร็วหัวไม้สูงสุดถึง 152 MPH ไดรฟแครี่ย์ 300 หลาขึ้นไป สบายๆ  อย่างกับเล่นเกมส์ปังย่าเชียว รีวิวของฝรั่งก็บอกคล้ายๆ กัน เราสามารถไดรฟได้ไกลถึง 350 หลา เวลาใช้ตัว Optishot แต่ก็สนุกดี ให้กำลังใจดีแท้ เวลาท้อๆ ตีไม่ไกล เครื่องนี้ช่วยให้หายเบื่อได้เลย  ที่ความเร็วหัวไม้ระดับ 152 MPH เฉลี่ย 135 MPH น้องๆ พวกแข่งตีไกลระดับโลกเลย  ทั้งๆ ที่ในชีวิตจริงผมไดรฟแค่ความเร็วเฉลี่ย 103 MPH เท่านั้นเอง

    หลังจากทดสอบทุกไม้ ไดรเวอร์จนถึงพัตเตอร์แล้ว ผมพอสรุปได้ว่า เจ้า Optishot ไม่เหมาะใช้ซ้อมกอล์ฟ ด้วยเหตุผลดังนี้

1.ตัวแปรทั้งหมดที่เครื่องแสดงออกมาแทบจะไม่แม่นยำ ทุกค่าตัวแปร ไม่สามารถเอามาใช้ประเมินผลการซ้อมได้อย่างแท้จริง ผมมองว่าอินฟราเรดเซ็นเซอร์ที่ใช้จับไม้กอล์ฟมีจำนวนน้อยไป ทำให้ไม่สามารถจับการเคลื่อนที่ของไม้กอล์ฟณ จุดอิมแพ็คได้อย่างแท้จริง ลองพัตต์แบบโค้งเยอะๆ ให้ก่อนหน้าพัตเตอร์เขิอิมแพ็คหน้าเปิด และหน้าปิดตอนกระทบลูก เครื่องอ่านว่าหน้าไม้เปิด ทั้งนั้นทั้งนั้นเป็นเพราะเซ็นเซอร์ไม่สามารถจับหน้าไม้ตอนเข้าอิมแพ็คได้อย่างแท้จริง

2.ด้านล่างของหญ้า ใช้วัสดุเป็นพลาสติก มีความแข็งมากๆ อิมแพ็คแบบ Hit Down แล้วมีเสียงดังจากการกระแทกของไม้กับพลาสติกด้านล่างแรงไป ดังจนเราแหยงไม่กล้าตี Hit Down ซึ่งเป็นวิธีการตีเหล็กที่ถูกต้อง ทำให้เวลาซ้อมต้องตั้งทีตี หรือต้องอิมแพคเหล็กแบบกวาดๆ ซึ่งถ้าซ้อมบ่อยๆ ทำให้มุมเข้าของเหล็กเพี้ยนไป และอาจทำให้ก้านไม้กอล์ฟ หรือ หัวไม้ชำรุด เมื่อตีโดนเซนเซอร์อินฟราเรดหลังลูกกอล์ฟบ่อยๆ (เซนเซอร์อยู่ชิดไป)

    แต่ถ้าใครที่ต้องการนำ Optishot 2 ไปเล่นเพื่อความบันเทิงภายในบ้าน ผมก็ว่าก็คุ้มดีนะครับ ระดับราคาไม่เกิน 15,000 บาท ได้ซอฟท์แวร์ Golf Simulator มี 15 สนาม ไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่การ์ดจอแรงๆ เอามาใช้ออกรอบสนุกสนามภายในบ้าน สนุกดี แต่ถ้าใครจะใช้แนะนำให้เปิดโหมดแบบ No Ball แล้วก็เล่นเกมส์ออกรอบโดยไม่ต้องไปซีเรียสกับความแม่นยำของระยะทางและทิศทางอะไรมากนัก ท่านจะได้เครื่องเล่นเกมส์ราคาถูกๆ ไว้เล่นกันสนุกสนานภายในบ้าน   

#Optishot #Oftishot2 #GolfSimulator #Simulator

สอบถามเพิ่มเติม