Titleist 718 T-MB สวย มน คม บาดใจ
เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
18 Sep 2017
- Shares:
เห็นรูปใบเหล็กรุ่นนี้ครั้งแรกรู้สึกชอบมากๆ ทั้งความสวยงาม สเปค ชนิดของวัสดุ ยิ่งได้เห็นตัวจริงเมื่อวันเปิดตัวใบเหล็กรุ่นนี้แล้ว ต้องบอกว่าประทับใจสุดๆ ยิ่งได้ลองนำไปซ้อมและออกรอบมากว่า 5 ครั้งแล้ว ขอสารภาพว่าหลงรักใบเหล็กรุ่นนี้เข้าให้แล้ว
718 T-MB เป็นใบเหล็กที่ผมเฝ้ารอมานานแล้ว เพราะความที่ยังชื่นชอบความสวยงามของเหล็กใบเบลดมาตั้งแต่ตอนหัดเล่นกอล์ฟใหม่ๆ และมีโอกาสซื้อมาใช้งานช่วงสั้นๆ ตอนที่ซ้อมกอล์ฟเกือบทุกวัน แต่ต้องยอมแพ้ เพราะเหล็กใบเบลดขนานแท้ทำระยะไม่ดีพอ
จนเมื่อ T-MB เปิดตัวครั้งแรกในซีรี่ย์ 716 เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ผมด่วนเข้าไปอ่านสเปคของรุ่นนี้ พบว่าน่าใช้งานมากๆ แต่น่าเสียดายว่า 2 ปีที่แล้ว เมืองไทยตัดสินใจนำเข้ามาจำหน่ายเพียงแค่เหล็กยาวเท่านั้น
มาปีนี้เมืองไทยตัดสินใจนำ 718 T-MB เข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยแบบยกเซ็ต ตั้งแต่ เหล็ก 2 จนถึง W
เหล็ก 718 T-MB เป็นการออกแบบรูปทรงเหล็กให้เป็นแบบเบลดดั้งเดิม หลังเรียบหรูสวยงาม ขนาดใบใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับขนาดมาตรฐานของเบลดดั้งเดิม ทั้งนี้เพื่อเพิ่มการชดเชยความผิดพลาดให้สูงขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ขนาดของใบก็มิได้ใหญ่มากจนรู้สึกขัดตา ขัดใจ ขนาดใบใกล้เคียงมากๆ กับ 718 AP2 ต้องมองเพ่งดีๆ จึงจะแยกออกระหว่าง AP2 กับ T-MB
เป้าหมายในการออกแบบเหล็กรุ่นนี้ เพื่อต้องการสร้างใบเหล็กให้สวยงาม ตีง่าย และได้ระยะทางเพิ่มขึ้น โดยพยายามสร้างให้ขนาดใบเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้
โดยเทคนิคการสร้างใบให้มีขนาดเล็กที่สุด และยังตีง่ายมาก คือ การใช้เทคโนโลยี Hollow Body Design และ multi-material construction utilizes high-density tungstenออกแบบด้านในใบเหล็กในเป็นโพรง เพื่อให้เกิดการกระจายน้ำหนักออกไปรอบๆ ใบ เพื่อเพิ่มค่า M.O.I. ทำให้ชดเชยความผิดพลาดดีขึ้น ช่วยให้ตีง่าย พร้อมกันนั้นยังใช้ก้อนทังสเทนถ่วงไว้ด้านล่างบริเวณปลายไม้และคอไม้ โดยใช้น้ำหนักถ่วงเฉลี่ยสูงมาก สูงถึง 93.9 กรัม ทำให้จุดศูนย์ถ่วงอยู่ค่อนไปทางด้านล่างชัดเจน ช่วยให้วิถีลูกสูงขึ้น ลอยง่าย ด้วยเทคโนโลยีหลักทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมา เป็นที่มาของการสร้างใบเหล็กให้ขนาดเล็กที่สุดแต่ยังตีง่าย ชดเชยความผิดพลาดดี
ในการออกแบบเพิ่มระยะ มีการใช้วัสดุทำหน้าเหล็กชนิดแข็งพิเศษ ชื่อว่า SUP10 Japanese Spring Steel ซึ่งเป็นวัสดุแข็ง ยืดหยุ่นดี สามารถรีดให้หน้าเหล็กบางลงได้ เพื่อให้หน้าเหล็กมีคุณสมบัติยืดหยุ่น ช่วยเพิ่มความเด้งที่หน้า เพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟตอนออกจากหน้าเหล็ก โดยการใช้วัสดุ SUP10 จะใส่ไว้ตั้งแต่ 7 ขึ้นไปจนถึงเหล็กยาว เพื่อเพิ่มระยะในเหล็กเบอร์ต่างๆ ในกลุ่มนี้ ส่วนเหล็ก 8-W ใช้วัสดุ 17-4 Stainless Steel เพื่อคงฟิลลิ่งที่หนักแน่นในการตี และคงระยะเหล็กในกลุ่มนี้ไม่ให้ถ่างออกจากเหล็กสั้นมากนัก
ผมมีโอกาสได้เฝ้ามองเหล็กรุ่นนี้ตั้งแต่ 716 T-MB จนมาถึง 718 T-MB ยืนยันได้เลยว่า 718 T-MB สวยตั้งแต่ในรูปถ่าย จนได้เห็นและสัมผัสตัวจริง และยิ่งได้มีโอกาสลองแล้ว บอกได้คำเดียวว่า พอร์เฟค
เหล็ก 718 T-MB ออกแบบองศาของใบเหล็กค่อนข้างที่จะเป็นค่าปกติมากๆ เมื่อเทียบกับเหล็กไซร์ขนาดกลาง แต่เมื่อเทียบกับเหล็กใบเบลดขนานแท้อย่าง 718 MB แล้ว องศาสตรองขึ้นมาเพียงแค่ 1-2 องศาเท่านั้น
ในการทดสอบตีตั้งแต่เหล็ก PW จนถึงเหล็ก 5 พบว่า ระยะของเหล็กตั้งแต่ 8-PW มีค่าเฉลี่ยไกลขึ้นราว 2-3 หลา หรืออาจกล่าวได้ว่า มิได้ไกลขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพราะหลายๆ คนไม่ต้องการให้ระยะของเหล็กในกลุ่มนี้ ฉีกไปจากระยะของ Gap Wedge มากนัก ซึ่งจะไปสร้างปัญหาปวดหัวตรงรอยต่อระหว่าง PW กับ Gap Wedge
ระยะของเหล็กตั้งแต่ 7 ขึ้นไปจนถึงเหล็ก 5 ช็อตที่โดนดีๆ ระยะมีโอกาสเพิ่มขึ้นไปถึง 10 หลาได้ แต่ถ้านับค่าโดยเฉลี่ยแล้ว ระยะทางเพิ่มขึ้นราว 5-6 หลา
*** การเปรียบเทียบ ระยะ เทียบที่เหล็กไซร์ใกล้เคียงกัน ถ้าเทียบกับเหล็กที่ไซร์ใหญ่กว่ารุ่นนี้ ระยะที่ได้อาจพอๆ กัน หรือน้อยกว่า ***
การทดสอบเหล็กรุ่นนี้ สิ่งที่ชอบมากที่สุดและรองลงมาเรื่อยๆ มีดังนี้
1.หลังใบ สวยมาก
2.ขนาดของใบเหล็ก กำลังดี ไม่เล็กจนระแวง และไม่ใหญ่จนขัดใจ
3.วัสดุที่ใช้ทำหน้าเหล็ก SUP10 Spring Steel ผมชอบวัสดุชนิดนี้มานานแล้ว และมีเหล็กหลายรุ่นที่ใช้วัสดุชนิดนี้ แต่ยังไม่มีตัวไหนที่ทำใบออกมาได้สวยเท่านี้
4.องศาเหล็กแต่ละเบอร์ ไล่เรียงกันดี และไม่สตรองมาก
5.มุมมองจากด้านบน ขอบบนไม่หนาไป ออฟเซ็ตน้อย และเวลาจรดไม่เห็นส่วนล่างของหลังใบยื่นออกมารบกวนสายตา หรือทำให้รู้สึกขัดใจเวลาจรด (เหล็กที่ออกแบบจุดศูนย์ถ่วงต่ำหลายรุ่น ทำ Sole หนาไป จนส่วนของหลังใบด้านล่าง ยื่นออกมาให้เห็นตอนที่จรดใบเหล็ก ทำให้ขัดตามากๆ)
6.ระยะทางไกลแบบเพียงพอ และมีการชดเชยความผิดพลาดดีมาก สำหรับขนาดใบระดับนี้
7.การใช้วัดสุทำหน้าเหล็กที่แข็ง ทำให้ร่องสึกยาก จึงมีแนวโน้มว่า หน้าเหล็กรุ่นนี้จะทนทาน อายุการใช้งานนาน เมื่อประกอบกับการออกแบบใบที่รูปลักษณ์แบบคลาสสิค ไม่แฟชั่น ทำให้ซื้อใช้ครั้งเดียวคุ้ม อยู่กับเราไปได้นานๆ
ทั้งหมดนี้คือ ข้อดีของเหล็กรุ่นนี้ ในมุมมองของผมครับ
ติดตามข้อมูล ความรู้ต่างๆ จากเราได้ที่
https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/
https://www.facebook.com/cing8333
https://line.me/R/ti/p/%40golferonline
หรือค้นหาเพื่อนใน line โดยคีย์คำว่า @golferonline
หรือสนในสั่งซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ที่
https://line.me/R/ti/p/%40qcgolf
หรือโทร 091-991-9592
18 / 9 / 2017
Tags : Titleist Iron Irons