เน้นตีไกล ยังไงก็ต้อง M2 Fairways

เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

13 Mar 2017
  • Shares:

 

     แฟร์เวย์ วูด ของ TaylorMade เริ่มสร้างชื่อเสียงในยุคแรกๆ จากคุณสมบัติของแฟร์เวย์ที่ตีง่าย หนักแน่น วิถีสวยงาม ทำให้นักกอล์ฟมือดีๆ ติดใจในคุณสมบัติของแฟร์เวย์ วูดแบรนด์ TaylorMade นับจากนั้นมา

     5 ปีที่แล้ว TaylorMade สร้างชื่อเสียงอีกครั้ง เมื่อออกแฟร์เวย์ วูดรุ่น RBZ ซึ่งเป็นแฟร์เวย์ วูดที่ตีไกลมาก ไกลขนาดที่ว่า นักกอล์ฟคนไหนยังตีไดรเวอร์ได้ระยะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แฟร์เวย์ รุ่น RBZ สามารถทำระยะไกลแซงไดรเวอร์ของตัวเองได้เลย

     ปัจจุบันแฟร์เวย์ วูดของแบรนด์ TaylorMade แบ่งออกเป็น 2 รุ่น ให้นักกอล์ฟเลือกใช้งาน ตามคุณสมบัติที่ชื่นชอบ ถ้าชอบแบบง่าย ฟิลลิ่งหนักแน่น วิถีมีพลัง ก็คงต้องเลือกไปทาง M1 แต่ถ้าจะเอาแบบง่ายๆ และไกลๆ ได้ระยะแล้วละก็คงต้องเป็น M2

      M2 แฟร์เวย์ วูดรุ่นปี 2017 ออกแบบหัวไม้ขนาดใหญ่ หัวไม้ 3 มีปริมาตร 175 ซีซี ใหญ่กว่า M1 แฟร์เวย์ ซึ่งมีขนาดเพียง 150 ซีซี ความแตกต่างของปริมาตรหัวไม้ บ่งบอกชัดเจนว่า M1 เป็นหัวไม้ที่เน้นให้ฟิลลิ่งหนักแน่น ส่วน M2 ชดเชยความผิดพลาดดี และเน้นทำระยะทาง

 

เทคโนโลยีที่อยู่ใน M2 รุ่นปี 2017 ประกอบไปด้วย

GEOCOUSTIC TECHNOLOGY

     การออกแบบกล่องเสียงภายในหัวไม้  และออกแบบท้องแฟร์เวย์โดยใช้โครงสร้าง externalized sound ribs เพื่อสร้างให้ได้คุณภาพเสียงที่ไพเราะ และสร้างความรู้สึกของเสียงกระทบที่ดีให้นักกอล์ฟ

6-layer carbon composite crown

     กระดองใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์วางซ้อนกัน 6 ชั้น เพื่อทำให้โครงสร้างส่วนกระดองแข็งแรง แต่มีน้ำหนักเบา วิศวกรสามารถออกแบบกระจายน้ำหนักไปไว้บริเวณอื่นของหัวไม้ เพื่อสร้างหัวให้มีการชดเชยความผิดพลาดสูงขึ้น เมื่อเทียบกับแฟร์เวย์ วูดที่มีปริมาตรเท่ากัน

 

Speed Pocket

     เทคโนโลยีหลักที่ใช้ในการเพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟให้สูงขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีนี้ใช้สร้างชื่อไว้ตั้งแต่แฟร์เวย์ วูด RBZ รุ่นแรก โดยเทคโนโลยี Speed Pocket จะทำหน้าที่ยุบและดีดตัว บริเวณราง Speed Pocket ช่วยเพิ่มความเร็วของลูกกอล์ฟให้สูงขึ้น และยังช่วยให้การตีไม่เข้า Sweet Spot ความเร็วไม่สูญเสียไปมากนัก

 

Inverted Cone Technology

     เทคโนโลยีของหัวไม้ไดรเวอร์ ซึ่งมีมานานกว่า 10 ปีแล้ว เป็นเทคโนโลยีหลักในไดรเวอร์ทุก รุ่นของไดรเวอร์ TaylorMade ไดรเวอร์อันดับ 1 ของโลกในปัจจุบัน โดยเทคโนโลยี Inverted Cone Technology เป็นการออกแบบความหนาของหน้าไม้ให้ส่วนกลางหนา และบางลงบริเวณรอบๆ ทำให้ส่วนที่มีความเด้งของหน้าไม้ ถูกกระจายออกไปรอบๆ กลางหน้าไม้ ทำให้การตีพลาดกลางหน้าไม้ไปบ้าง แต่ยังอยู่ภายในพื้นที่ส่วนที่หน้าไม้หนา หน้าไม้ก็ยังยุบตัว ดีดตัว ตรงบริเวณส่วนที่บางได้ ซึ่งการออกแบบโครงสร้างลักษณะนี้ จะเสมือนเป็นการช่วยทำให้พื้นที่ Sweet Spot มากขึ้นได้

 

    การผสมผสานเทคโนโลยี Speed Pocket และ Inverted Cone Technology จะช่วยสร้างให้หน้าไม้มีพื้นที่ Sweet Spot Zone ครอบคลุมทั่วหน้าไม้มากขึ้น เพราะเมื่อนักกอล์ฟตีพลาดไปทางด้านใดก็ตาม ทั้ง Speed Pocket + Inverted Cone Technology จะช่วยกันดีดตัว เพิ่มความเร็วลูกกอล์ฟให้ จึงไม่แปลกใจว่า ผลการทดสอบแฟร์เวย์ วูดรุ่น M2 ปี 2017 จะได้ระยะทางที่ไกล และไกลกว่าแฟร์เวย์ วูด RBZ รุ่นที่เคยโด่งดังในอดีตมากกว่าราว 10 หลา  

     ใครที่เคยติดใจ RBZ ยังไงต้องหาโอกาสลอง M2 Fairways 2017    

 

 

เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร

Chalermwong B.Kajorn

ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.

 

ติดตามข้อมูล ความรู้ต่างๆ จากเราได้ที่

https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/

https://www.facebook.com/cing8333

https://line.me/R/ti/p/%40golferonline

หรือค้นหาเพื่อนใน line โดยคีย์คำว่า @golferonline

13 / 3 / 2017

 

 

  Tags :  Wood , Woods Fairway หัวไใม้       

 

 

 




SOCIAL SHARES

หากบทความนี้มีประโยชน์กับท่านหรือเพื่อนร่วมก๊วน ฝากกดแชร์ที่เครื่องหมาย F ด้านใต้ข้อความนี้ครับ ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านบทความของเรา


COMMENTS

OUR SPONSOR

OUR PARTNERS
  • partner 1
  • partner 2
  • partner 3
  • partner 4
  • partner 5
  • partner 6
  • partner 7
  • partner 8