รักและผูกพันของครอบครัว เพชรล้ำ

เรียบเรียงโดย วสนันทน์ โพธิ์ศรีธนัต

02 Mar 2017
  • Shares:

 

     หากนักกอล์ฟท่านใดมีโอกาสเดินตามเชียร์โปรแหวนเมื่อตอนที่โปรแหวนมาแข่ง ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ในไทย จะต้องสังเกตเห็นภาพคุณพ่อ คุณแม่ ของโปรแหวน เดินตามเชียร์ตลอดทาง และภาพของโปรแหวนที่มีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเชียร์ เสียงปรบมือให้กำลังใจจากกองเชียร์ชาวไทย แต่ใครจะรู้ว่า กว่าที่โปรแหวนจะประสบความสำเร็จในวันนี้ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง

     วันนี้นิด มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณพ่อดุสิต เพชรล้ำ และเพลินพุฒ เพชรล้ำ ระหว่างเดินตามเชียร์โปรแหวน พรอนงค์ เพชรล้ำ

 

1.แนวทางในการเลี้ยงลูกให้ประสบผลสำเร็จ และกว่าจะมาถึงจุดนี้ ต้องแลกกับอะไรบ้าง

คุณแม่:  น้องแหวนเป็นคนน่ารัก เลี้ยงง่าย มาตั้งแต่เด็กๆแล้วค่ะ ไม่ดื้อไม่ซน เป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่าย มีความกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ เป็นคนที่นำความสุขมาให้กับครอบครัว และก็ชาวชัยภูมิ และคนไทยทั้งประเทศอีกด้วย แต่กว่าจะประสบความสำเร็จมาได้ในระดับนี้ แน่นอนเราต้องผ่านร้อนผ่านหนาวมากันมากมาย เวลาเราเหนื่อยและท้อ ครอบครัวเราจะปลอบใจกันและกัน อย่างเวลาที่ลูกท้อ จะบอกน้องแหวนเสมอว่า เราต้องมีสติและมีสมาธิเสมอ ใจต้องนิ่ง อยู่กับเกมส์ที่เราเล่นและพยายามทำตามที่เราตั้งใจที่จะไปให้ถึงฝันที่เราวางไว้ และพยายามดึงสมาธิให้กับมาอยู่ที่ตัวเองให้เร็วที่สุด ใจต้องนิ่งเสมอ คุณแม่ขอฝากไว้แค่นี้นะค่ะ คุยไม่ค่อยเก่งค่ะ ให้คุณพ่อเล่าให้ฟังต่อนะค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

 

คุณพ่อดุสิต เพชรล้ำ

2.แนวทางในการเลี้ยงลูกให้ประสบผลสำเร็จ กว่าจะมาถึงจุดนี้ ต้องแลกกับอะไรบ้าง

คุณพ่อ : ผมภูมิใจกับลูกทุกคนครับ ผมมีลูกอยู่สามคน ทั้งสามคนไม่เคยทำให้พ่อและแม่ผิดหวังเลย เป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย ทุกคนชอบเล่นกอล์ฟเหมือนคุณพ่อครับ ผมไม่ได้บังคับให้เล่นแต่อยากให้เค้าเล่นด้วยใจที่เค้าอยากจะเล่นกอล์ฟเอง ฉะนั้นทั้งสามคนพี่น้องจะชอบเล่นกอล์ฟเหมือนผม อย่างน้องแหวนนี่ เริ่มเล่นกอล์ฟมาตั้งแต่อายุ 8 ขวบ เห็นพี่ๆเล่นก็อยากจะเล่นกอล์ฟเหมือนพี่ๆบ้าง จากนั้นน้องแหวนก็ชอบที่จะเล่นกีฬากอล์ฟและมุ่งมั่นที่อยากจะเล่นกอล์ฟด้วยใจที่เค้าอยากจะเล่นเองโดยที่ไม่มีใครบังคับ  ผมก็จะบอกกับลูกๆเสมอว่าถ้าในเมื่อเราเลือกที่จะเล่นกีฬากอล์ฟแล้ว เราต้องตั้งใจและมุ่งมั่นในกีฬากอล์ฟและต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้นะลูก ถ้าในเมื่อเราอยากจะหาเส้นทางในอาชีพกีฬากอล์ฟแล้วเราต้องมุ่งมั่นและทุ่มเททำให้ได้อย่างที่เราตั้งใจไว้

 

     ฉะนั้นกีฬากอล์ฟจะเป็นสิ่งที่ลูกๆทั้งสามคนทุ่มเทและให้ความสำคัญกับอาชีพนี้มาตลอดตั้งแต่เราเริ่มเอาจริงจังกับกีฬากอล์ฟ และในปัจจุบันโปรวาวจะเป็นคนดูแลสิทธิประโยชน์ต่างๆของครอบครัวและรวมถึงโปรแหวนด้วยครับ ครอบครัวของเรามีอะไรจะทำงานกันเป็นทีม ปรึกษากันได้ทุกเรื่องครับ

     ฉะนั้นเมื่อมาถึงจุดนี้ได้ก็ถือว่าแฟนกอล์ฟชาวไทยและชาวต่างประเทศให้กำลังใจกับโปรแหวนและครอบครัวของเรามาโดยตลอด ด้วยบุคลิกของโปรแหวนเองที่เป็นคนยิ้มง่าย ก็เหมือนที่เค้าชอบพูดกันว่าคนไทยเป็นคนที่ยิ้มง่าย ประเทศไทยคือสยามเมืองยิ้ม นี่แหล่ะครับที่ทำให้ชาวต่างชาติชื่นชอบโปรแหวน ที่เป็นคนที่ยิ้มง่ายๆ เกมส์การเล่นก็เล่นไปยิ้มไป เรื่อยๆไม่มีอารมณ์กับเกมส์เท่าไหร่

     แต่ถ้าเวลาที่เหนื่อยๆมาก็มีท้อบ้าง เราจะปลอบใจกันเสมอ ผมจะบอกกับลูกๆว่า เกมส์กอล์ฟมันเป็นกีฬาที่สู้กับตัวเอง แต่ละครั้งที่ผลงานไม่ดี ผมก็จะบอกว่าวันนี้...ครั้งนี้...มันไม่ใช่โอกาสของเราหรือเป็นวันของเรา แค่นั้นเองครับ ลูกๆก็จะเข้าใจ

     กอล์ฟมันเล่นกัน 18 หลุม แข่งกับตัวเองทั้งสี่วัน เราจะเป็นแชมป์ได้ครั้งหนึ่งหรือแต่ละครั้งนั้น เราต้องมีการเรียนรู้และศึกษาเกมส์กอล์ฟ  เกมส์การเล่นตลอดทุกวินาทีทุกย่างก้าว รู้จักคิดมีสติและสมาธิอยู่กับตัวเองตลอดเวลา ฉะนั้นการที่เราจะเป็นแชมป์ได้ร่างกายและจิตใจต้องแข็งแรงสมบูรณ์ทั้งสี่วัน เหมือนกับตอนสมัยที่โปรแหวนแข่งที่ออสเตรเลีย ตอนนั้นโปรแหวนมีโอกาสขึ้นนำทั้งสามวันแต่วันสุดท้าย คนที่เป็นแชมป์ก็ไม่ใช่ก๊วนผู้นำ นั้นก็คือเป็นวันของเค้า

 

3.ทัศนคติของครอบครัวกับกีฬากอล์ฟ

คุณพ่อ : การทำงานทุกอย่างอาชีพแต่ละอาชีพก็แตกต่างกันไป แต่สำหรับโปรแหวนได้เลือกอาชีพกีฬากอล์ฟ เป็นอาชีพของตังเองแล้ว การทำงานทุกอย่างไม่ได้จะราบรื่น เรียบสวยหรูไปหมด ต้องมีบ้างที่บางครั้งเหมือนว่าตัวเองจะท้อ ผมจะบอกกับลูกเสมอครับว่า สิ่งที่เราทำ เราท้อไม่ได้นะลูก ถ้าเราท้อเมื่อไหร่ทุกอย่างที่เริ่มต้นมาตั้งแต่แรกคือจบเลยนะ แค่นั้นเองครับ กำลังใจคือสิ่งที่สำคัญกับทุกอาชีพทุกสายงาน เราจะสร้างกำลังใจให้กันและกันเสมอ การยิ้มก็เป็นอีกหนึ่งกำลังใจที่ทำให้สดชื่นขึ้นมาได้ และตรงไหนที่เรามองเห็นจุดผิดพลาด เราก็ต้องรีบแก้ไขให้เร็วที่สุดครับ

 

4.กิจกรรมที่ทำร่วมกันของครอบครัว

คุณพ่อ : ในหนึ่งปี โปรแหวนจะแข่งอยู่ในอเมริกาประมาณ 6 เดือนเป็นอย่างน้อย และก็ในแถบยุโรปและเอเชีย เราจะมีโอกาสพบกันพร้อมหน้าพร้อมตากันก็ช่วงประมาณสิ้นปีครับ ฉะนั้นถ้าโปรแหวนมาแข่งแถวเอเชีย ผมกับภรรยาก็จะบินไปเชียร์ไปให้กำลังใจลูกบ้างเป็นบางครั้งบางโอกาสครับ แต่ถ้าเป็นอเมริกาคงไม่ไหวมันไกลเกินครับค่าใช้จ่ายก็ตามมาเยอะครับ แต่เราจะคุยกันตลอดครับ เมื่อไหร่ที่โปรแหวนรู้ว่าพ่อกับแม่จะไปเชียร์นะลูก โปรแหวนจะดีใจมากๆครับ เพราะนักกอล์ฟอาชีพมันไม่สามารถที่จะมาอยู่กับครอบครัวได้ตลอดทุกวัน ฉะนั้นเราก็จะเดินทางไปเชียร์ลูกได้เป็นบางแมทช์แค่นั้นเองครับ แต่ครอบครัวผมก็จะไม่ห่วงโปรแหวนมากเท่าไหร่เวลาเค้าอยู่ต่างประเทศ เพราะครอบครัวเราโชคดีที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีนั่นก็คือครอบครัวของคุณศุภพร มาพึ่งพงศ์ (ปัจจุบันท่านได้เสียชีวิตแล้ว) ถ้าอเมริกา ก็จะอยู่เวอร์จีเนีย แมทช์ไหนที่ไม่ได้แข่งขันก็จะบินกลับมาที่บ้านอาป้อมซึ่งเป็นพี่สาวของคุณศุภพร มาพึ่งพงศ์ เรามีครอบครัวนี้มีพี่จุ๊บที่คอยดูแลอยู่ตลอดครับต้องขอขอบคุณผ่านสื่อไว้ ณ ตรงนี้ด้วยนะครับ

 

5.ความภาคภูมิใจที่สุดในลูกคนนี้ 

คุณพ่อ : สิ่งที่โปรแหวนทำคือการเข้าตาผู้ใหญ่ใจดี นั่นก็คือบริษัทสิงห์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด สมัยนั้นคุณศุภพร มาพึ่งพงศ์ เป็นผู้ดูแลนักกอล์ฟอาชีพของค่ายสิงห์อยู่ ท่านเรียกผมเข้าไปคุยในฐานะหัวหน้าครอบครัว ท่านบอกว่าอยากให้ลูกเป็นโปรมั้ย แค่นั้นแหล่ะครับ ความตื้นตันปิติยินดีมาหมดครับ โอกาสของลูกมาแล้ว

     ฉะนั้นช่องทางที่จะเป็นโปรได้ในระดับอาชีพนั้นไม่ได้ง่ายๆเลยครับ คุณศุภพร มาพึ่งพงศ์ เป็นคนที่มีประสบการณ์ในเรื่องการอยู่ในอเมริกา จากนั้นผมก็ได้รับความไว้วางใจจากคุณศุภพร มาพึ่งพงศ์ ที่จะคอยให้คำแนะนำทุกเรื่องเกี่ยวกับการเป็นนักกอล์ฟอาชีพที่ดี เป็นคนดูแลโปรแหวนหรือจะบอกว่าเป็นคนปั้นโปรแหวนเลยก็ว่าได้นะครับ ความคิดของคุณศุภพร มาพึ่งพงศ์ ในตอนนั้นบอกว่า นักกอล์ฟต่างชาติจะมองนักกอล์ฟไทยว่าตัวเล็กสู้คนต่างชาติไม่ได้หรอก แต่คุณศุภพร มาพึ่งพงศ์ กลับมองว่า คนไทยสู้ใครในโลกได้ทั้งหมด เราก็จะสร้างเมคอินไทยแลนด์ สร้างจากคนไทยเนี่ยแหล่ะครับ ท่านเป็นคนที่อยากให้คนไทยมองคนไทยว่า คนไทยไม่ได้แพ้ชาติใดในโลก

     และอีกสิ่งหนึ่งที่ภาคภูมิใจหลังจากที่แหวน ขึ้นมาเป็นโปรแหวนแล้ว ตอนนั้นแหวนเทิร์นโปรเมื่อตอนอายุ 16 ปี หลังจากที่แหวนเทิร์น ก็ได้แชมป์เอเชียน ทัวร์ ติดกัน 3 รายการ แต่มีรายการหนึ่งที่ครอบครัวเราภูมิใจมากๆนั้นก็คือรายการไทยแลนด์ เลดีส์ โอเพ่น เมื่อปี 2551 แหวนได้แชมป์ซึ่งเป็นแชมป์ที่เป็นถ้วยพระราชทาน”ควีนสิริกิติ์คัพ” ซึ่งแหวนได้เป็นคนไทยคนแรกที่ได้แชมป์ครับ หลังจากนั้นก็ได้แชมป์มาเรื่อยๆในอาชีพกอล์ฟ สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยมาตลอดครับ

     โปรแหวนจะมีคุณสมบัติพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือ คำว่าท้อไม่มี โปรแหวนแข่งกอล์ฟมาก็เยอะ มีทั้งแพ้และชนะเป็นเรื่องธรรมดาครับ รู้จักคำว่าแพ้ ก็รู้จักมาแล้วว่าความรู้สึกในตอนนั้นเป็นอย่างไรแบบไหน  รู้จักคำว่าชนะก็รู้จักมาแล้ว ว่าความรู้สึกในตอนนั้นเป็นอย่างไร ฉะนั้นความรู้สึกตรงนั้นก็สามารถบอกกับตัวเองได้ตลอดเวลาว่า เราจะต้องมุ่งมั่นและทุ่มเททุกขณะที่เราอยู่ในอาชีพสายกอล์ฟ การขึ้นมาเล่นในแอลพีจีเอนี้มิใช่เรื่องง่ายๆเลยนะครับ ในเมื่อเราเข้ามาเล่นในแอลพีจีเอแล้วเนี่ย สิ่งแรกที่เราต้องทำคือการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ถ้าจะทำชื่อเสียงให้กับประเทศไทย เราจะต้องเสียสละอะไรหลายๆอย่างหรือแม้กระทั้งความเป็นส่วนตัวของครอบครัวไปบ้าง โปรแหวนยอมที่จะเสียสละตรงนี้ครับ ผมจะบอกกับครอบครัวเสมอเรื่องตรงนี้ครับ เราต้องยอมสียสละส่วนหนึ่งของครอบครัว แต่เราทำเพื่อประเทศชาติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของครอบครัวเราครับ

     ขอฝากทิ้งท้ายถึงน้องๆนักกอล์ฟเยาวชนและท่านผู้ปกครอบทุกท่านที่ตามเชียร์โปรแหวนและให้กำลังใจครอบครัวเรามาโดยตลอด สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเป็นนักกีฬาหรือนักกอล์ฟขึ้นอยู่กับท่านผู้ปกครองเองทั้งหมดและรวมถึงผู้ให้การสนับสนุนนักกอล์ฟ และต่อมาก็คือตัวนักกอล์ฟเอง ที่จะต้องมีความมุ่งมั่นและทุ่มเทในสิ่งต่างๆที่ตั้งใจไว้และไปให้ถึงจุดๆนั้นให้จงได้นะครับ ฉะนั้นบอกได้เลยว่า คนไทย ไม่แพ้ชาติใดในโลก ครับ

     เรามาร่วมกันให้กำลังใจโปรแหวน ให้ปีนี้ประสบความสำเร็จ คว้าแอลพีจีเอทัวร์ คว้าแชมป์เมเจอร์ให้ชาวไทยยิ้มไปกับรอยยิ้มของโปรแหวนกันค่ะ 

Photo Cradit : Colin Dunjohn 

 

วสนันทน์ โพธิ์ศรีธนัต




SOCIAL SHARES

หากบทความนี้มีประโยชน์กับท่านหรือเพื่อนร่วมก๊วน ฝากกดแชร์ที่เครื่องหมาย F ด้านใต้ข้อความนี้ครับ ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่ติดตามอ่านบทความของเรา


COMMENTS

OUR SPONSOR

OUR PARTNERS
  • partner 1
  • partner 2
  • partner 3
  • partner 4
  • partner 5
  • partner 6
  • partner 7
  • partner 8