7 วิธีเพิ่มระยะไดรเวอร์
เรียบเรียงโดย เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
05 Jan 2017
- Shares:
นักกอล์ฟส่วนใหญ่ล้วนอยากที่จะตีไดรเวอร์ให้ไกล เพราะการตีไดรเวอร์ให้ไกลนอกเหนือว่าจะสามารถข่มขวัญคู่ต่อสู้ได้แล้ว ยังทำให้การเล่นช็อตต่อไปง่ายขึ้น
เพราะการใช้เหล็กที่สั้นลง จะทำให้ความผิดพลาดในเรื่องทิศทาง น้อยกว่าเหล็กที่ยาวกว่า
ถ้าเราดูสถิติระยะไดรฟกับเปอร์เซ็นต์การตีให้ออนตามเรคกูเรชั่นของโปรในทัวร์ จะพบว่านักกอล์ฟที่ตีไดรเวอร์ได้ระยะไกล จะทำให้เหลือระยะช็อต 2 ตีขึ้นกรีนไม่มากนัก ทำให้โอกาสการตีออนตามเรคกูเรชั่นสูงขึ้น ซึ่งตามตัวเลขสถิติในพีจีเอทัวร์ระหว่างระยะแอพโพสเฉลี่ย 175-200 หลา กับระยะแอพโพสเฉลี่ย 125-150 หลา เปอร์เซ็นต์ออนตามเรคกูเรชั่นจะต่างกันสูงถึงประมาณ 15.04 % และเชื่อได้เลยว่าในระดับนักกอล์ฟสมัครเล่นจะมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่านี้อีก
นอกจากนั้นแล้วการตีไดรเวอร์ไกลขึ้น โอกาสที่จะออนใกล้หลุมเพื่อพัตต์เบอร์ดี้ก็ง่ายขึ้นด้วย จากตัวเลขสถิติในพีจีเอทัวร์ปี 2009 นักกอล์ฟที่เหลือระยะแอพโพสเฉลี่ย 175-200 หลา จะตีเข้ามาออนห่างหลุมเฉลี่ย 33 ฟุต 10 นิ้ว ส่วนนักกอล์ฟที่เหลือระยะแอพโพส 125-150 หลา จะตีเข้ามาออนห่างหลุมเฉลี่ย 23 ฟุต 8 นิ้ว ต่างกันถึง 10 ฟุต 2 นิ้ว
ปัญหาของนักกอล์ฟที่ตีไม่ได้ระยะของแต่ละคน ล้วนมีอุปสรรคที่แตกต่างกัน ซึ่งแต่ละคนก็ต้องค้นหากันว่าเรามีอะไรที่ติดขัดตรงไหนบ้าง การแก้ปัญหาที่ติดขัดอย่างถูกวิธี จะช่วยให้นักกอล์ฟค้นหาหนทางที่จะตีไดรเวอร์ได้ระยะทางไกลที่สุด และนี่คือ 8 วิธีในการเพิ่มระยะไดรเวอร์
1 หาวิถีที่ทำให้ตีได้ระยะมากที่สุด
ถ้าคุณเคยมีประสบการณ์ตีไดรเวอร์แล้วพบว่าบางช็อตคุณคิดว่าโดนเต็มแล้ว น่าจะตีได้ไกลสุดๆ แต่พอเดินไปถึงตำแหน่งลูกกอล์ฟกลับพบว่าไม่ไกล แต่บางช็อตคุณคิดว่าโดนไม่เต็มมาก แต่ระยะกลับไกลกว่าที่คิด ถ้าเคยมีประสบการณ์แบบนั้นแสดงว่าคุณยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องวิถีลูกที่ตี หลายคนเข้าใจผิดว่าวิถีลูกที่ตํ่าจะช่วยให้ตีไกล บางคนก็เข้าใจทฤษฎีดีว่าวิถีลูกสูงจะตีไกล แต่จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าวิถีที่สูงนั้น สูงแบบไหน อย่างไร เนื่องจากไม่เคยเข้าเครื่อง Launch Monitor เพื่อตรวจสอบวิถีของลูกกอล์ฟ สำหรับนักกอล์ฟที่เคยวิเคราะห์กับเครื่อง Launch Monitor เรื่องนี้คงไม่มีปัญหา แต่นักกอล์ฟที่ยังไม่เคย ให้ลองหาโอกาสทีออฟในวันที่สนามกอล์ฟว่างๆ ลองทีออฟวิถีลูกแบบสูง ปานกลาง และตํ่าดู แล้วลองดูว่าวิถีแบบไหนที่ช่วยทำให้ตีได้ระยะไกลที่สุด หรือนักกอล์ฟอาจทดสอบในสนามไดร์ฟก็ ได้ แต่แนะนำให้ลองทดสอบในช่วงเวลาที่แสงสว่างเพียงพอ เพื่อให้สามารถเห็นตำแหน่งที่ลูกกอล์ฟตกสู่พื้นได้อย่างชัดเจน
2 เลือกใช้ไดรเวอร์ที่เข้ากับลักษณะการตีตัวเอง
ไม่สำคัญว่าไดรเวอร์นั้นจะมาจากค่ายไหน และไม่สำคัญว่าใครจะมาโฆษณาว่าไดรเวอร์นั้น ใช้โดยคนที่ตีไกลมากๆ ตราบใดที่ไดรเวอร์นั้นไม่เหมาะกับเรา ตีให้ตายก็ไม่ไกล
การเลือกไดรเวอร์ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยเพิ่มระยะไดรเวอร์ให้กับนักกอล์ฟได้ ซึ่งในการเลือกไดรเวอร์นั้นมีหลายองค์ประกอบที่ใช้ในการพิจารณา
วิถีลูกธรรมชาติของไดรเวอร์นั้นๆ ไดรเวอร์ในตลาดจะมีการออกแบบหลักๆ ออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ในไดรเวอร์ที่มีองศาเดียวกันบางรุ่นให้วิถีลูกโดดเด่นไปทางพุ่งต่ำ บางรุ่นโดดเด่นไปในทางพุ่งสูง บางรุ่นก็เกาะกลุ่มอยู่ตรงวิถีปานกลาง เวลาเลือกก็ควรเลือกให้เหมาะกับสไตล์เรา หลักการคร่าวๆ คือ ถ้าคุณเป็นคนที่ตีโด่งมาก ก็ควรเลือกไดรเวอร์ที่ให้วิถีลูกธรรมชาติพุ่งต่ำ แต่ในทางตรงกันข้าม หากคุณเป็นคนตีวิถีลูกต่ำมากๆ ก็ต้องเลือกวิถีลูกที่ธรรมชาติพุ่งสูง ส่วนนักกอล์ฟที่วิถีลูกเกาะอยู่ค่ากลางๆ ก็เลือกไดรเวอร์ที่ให้วิถีลูกปานกลาง ไม่โดดเด่นไปในทางสูงหรือต่ำ
การชดเชยความผิดพลาดของไดรเวอร์นั้นๆ นักกอล์ฟที่อิมแพคแม่นๆ สามารถใช้ไดรเวอร์รูปแบบใดก็ได้ ส่วนนักกอล์ฟที่อิมแพคแล้วลูกกอล์ฟยังกระจัดกระจายเป็นรอยกระทบลูก เต็มพื้นที่หน้าไม้ ควรเน้นเลือกไดรเวอร์หัวใหญ่ๆ เต็มพิกัด 460 ซีซี และเลือกไดรเวอร์ที่ดูแล้วหัวโตๆ เล็กน้อย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นไดรเวอร์ที่หน้าไม้เตี้ย Shallow Face หรือเลือกไดรเวอร์จุดศูนย์ถ่วงอยู่ต่ำ โดยปกติแล้วไดรเวอร์ลักษณะนี้มักเสียบก้านเบาๆ ยาวๆ มาครับ ส่วนไดรเวอร์สายโหดๆ ชดเชยความผิดพลาดต่ำๆ มักเสียบก้านโหดๆ หนักๆ แข็งๆ มา
นํ้าหนักไดรเวอร์ การเลือกนํ้าหนักไดรเวอร์ให้เหมาะกับความแข็งแรงของตัวเอง โดยปกตินักกอล์ฟทั่วไปที่ไม่ได้มีพื้นฐานเป็นนักกีฬามาก่อน และเป็นนักกอล์ฟที่รูปร่างไม่สูงใหญ่ ควรเลือกใช้ไดรเวอร์ที่มีก้านนํ้าหนักไม่เกิน 60 กรัม ยิ่งนักกอล์ฟที่ออกกำลังกายน้อยและรูปร่างเล็กหรือนักกอล์ฟเยาวชน สุภาพสตรี ควรใช้ก้านที่มีนํ้าหนักตํ่ากว่า 50 กรัม จะทำให้นักกอล์ฟสามารถเร่งความเร็วหัวไม้ได้สูงสุด นํ้าหนักของไดรเวอร์ที่ต่างกันอาจจะทำให้ความเร็วในการตีไดรเวอร์ของนักกอล์ฟแตกต่างกันได้ตั้งแต่ 2 MPH ถึง 5 MPH ได้ ซึ่งหากคำนวณกลับมาเป็นระยะทางแล้ว จะทำให้ตีไดรเวอร์ได้ระยะทางแตกต่างกันประมาณ 9-22 หลา
ความแข็งของก้าน ก้านที่มีความแข็งที่เหมาะสม ก้านจะมีการดีดตัวในขณะเข้ากระทบลูก จะช่วยให้เพิ่มความเร็วหัวไม้ได้ประมาณ 2 MPH ซึ่งเมื่อคำนวณกลับมาเป็นระยะทางจะทำให้ตีได้ระยะทางเพิ่มขึ้น 9 MPH
องศาของไดรเวอร์ เรื่ององศาของไดรเวอร์จะเกี่ยวเนื่องมาจากเรื่องของวิถีลูกที่เหมาะสม โดยองศาของไดรเวอร์จะเป็นตัวแปรหลักที่สำคัญในการสร้างวิถีลูกที่สูงหรือตํ่าให้แตกต่างกันได้ชัดเจนที่สุด ฉะนั้นในการเลือกองศาของไดรเวอร์ที่เหมาะสมนั้นจะต้องตรวจสอบวิถีลูกของตัวเองในปัจจุบันว่าลูกตํ่าเพียงใด หลังจากนั้นก็เลือกองศาไดรเวอร์ให้เหมาะสมกับสไตล์การตีของตัวเอง (แม้ว่าปัจจุบันไดรเวอร์เกือบทุกค่ายจะสามารถปรับองศาได้ แต่ในการเลือกซื้อ ควรเลื้อกซื้อองศาให้ตรงกับลักษณะการตีของเราก่อน)
ความยาวของไดรเวอร์ นักกอล์ฟบางคนเลือกที่จะเพิ่มความยาวของไดรเวอร์เพื่อเพิ่มความเร็วของไดรเวอร์ ซึ่งไดรเวอร์หลายๆ แบรด์ก็มีสเปคไดรเวอร์ยาวพิเศษออกมาวางจำหน่าย โดยทั่วไปความยาวไดรเวอร์คือ 46 นิ้ว แต่ไดรเวอร์ที่ยาวพิเศษจะมีความยาว 46-47 นิ้ว ซึ่งจะช่วยให้นักกอล์ฟมีความเร็วหัวไม้เพิ่มขึ้น 2-5 MPH ซึ่งจะทำให้ตีไดรเวอร์ไกลขึ้น 9-22 หลา (สำหรับไดรเวอร์บางรุ่นที่มิได้ออกแบบสำหรับไดรเวอร์ความยาวพิเศษ หากนักกอล์ฟเอามาโมให้ยาวขึ้น ไดรเวอร์จะหนักเกินไป Swing Weight สูงไป นักกอล์ฟอาจสวิงไม่ไหว ทำให้ความเร็วหัวไม้แทนที่จะเพิ่ม แต่กลับลดลงได้)
เลือกไดรเวอร์ที่ Smash Factor ขึ้นเต็ม เรื่องนี้สามารถตีเพื่อตรวจสอบข้อมูลใน Launch Monitor ระบบเรดาร์เท่านั้นเช่น FlightScope โดยส่วนใหญ่แล้วแบรนด์หลักๆ ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ค่า Smash Factor มักขึ้นเต็มที่เมื่ออิมแพคเต็ม ( ค่า Smash Factor แถว 1.49-1.52 ) ส่วนไดรเวอร์หน้าใหม่หลายๆ ราย มักมีปัญหาค่า Smash Factor ขึ้นไม่ค่อยเต็มที่ เรื่องนี้ ก่อนซื้อควรลองตรวจสอบเรื่องนี้ดีๆ โดยเฉพาะไดรเวอร์แบรนด์ใหม่ๆ
3 ออกกำลังกาย
ในระหว่างสวิงการเร่งความเร็วหัวไม้ให้สูงสุด นอกจากนักกอล์ฟจะต้องมีความแข็งแรงในการสร้างแรงเหวี่ยงแล้ว นักกอล์ฟจะต้องมีความแข็งแรงเพียงพอในการรองรับแรงเหวี่ยงที่จะดึงให้นักกอล์ฟเสียศูนย์ มิฉะนั้นนักกอล์ฟจะเกิดการเสียหลักได้ง่ายเมื่อสวิงให้เกิดแรงเหวี่ยงสูงๆ เวลาที่นักกอล์ฟออกกำลังกายอย่างสมํ่าเสมอ นักกอล์ฟจะรู้สึกสวิงได้สบายขึ้นเมื่อสวิงที่ความเร็วเดิมหรือความเร็วที่สูงขึ้น การออกกำลังกายอย่างสมํ่าเสมอจึงช่วยให้นักกอล์ฟสามารถเพิ่มความเร็วหัวไม้ได้ และยังทำให้การสวิงมีความนิ่งอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการออกกำลังกาย ต้องออกกำลังกายให้ถูกส่วน ให้ออกกำลังกล้ามเนื้อหลักๆ ที่สร้างพาวเวอร์ในการสวิง ซึ่งเดี๋ยวนี้มีผู้ที่ศึกษาเรื่องนี้อยู่มากพอสมควร
4 หาเทมโป้การตีที่มีประสิทธิภาพ
คำว่าเทมโป้คือ ความเร็วในการสวิง ซึ่งก่อนที่นักกอล์ฟจะหาเทมโป้ในการสวิงของตัวเอง นักกอล์ฟจะต้องรู้ว่าตัวเองเป็นคนตีกอล์ฟจังหวะไหน บางคนตีในจังหวะแบบ 1,2,3 (1 คือแบ็คสวิง, 2 คือสูงสุดของสวิง, 3 คือดาวน์สวิง) บางคนตีแบบ 1,2,3,4 (1 คือแบ็คสวิง 2 จุดสูงสุดของสวิง 3 คือจังหวะค้างเล็กน้อยก่อนดาวน์สวิง 4 คือดาวน์สวิง ) ซึ่งนักกอล์ฟแต่ละคนจะเคยชินกับจังหวะการสวิงกันคนละอย่าง นักกอล์ฟบางคนแบ็คสวิงสุดแล้วก็ลงเลย จังหวะสวิง 1,2,3 นักกอล์ฟบางคนแบ็คสวิงถึงจุดสูงสุดแล้วต้องค้างก่อนเล็กน้อยถึงลง 1,2,3,4 ถ้านักกอล์ฟคุ้นกับสวิงแบบไหนก็ขอให้ใช้แบบนั้น หลังจากนั้นลองเปลี่ยน Tempo ในการสวิง โดยการรักษาจังหวะสวิงเดิมไว้ นักกอล์ฟบางคนสวิงแบบ 1,2,3,4 แต่พอเปลี่ยนเทมโป้กลับไปสวิงแบบ 1,2,3 ทำให้เสียจังหวะ จึงทำให้ความแน่นอนในการสวิงสูญเสียไป ถ้านักกอล์ฟชอบค้างก่อนลง ก็ขอให้ค้าง ถ้านักกอล์ฟชอบดาวน์สวิงสวนลงมาเลย ก็ขอให้รักษาจังหวะเหล่านั้นไว้ หลังจากนั้นลองหาเทมโป้ที่เหมาะสมในการสวิงของตัวเอง เทมโป้ในการตีที่เหมาะสม จะทำให้นักกอล์ฟมีโอกาสตีเข้า Sweet Spot มากขึ้น อิมแพคเต็มขึ้น จะทำให้ลูกกอล์ฟพุ่งออกจากหน้าได้ด้วยความเร็วสูงสุด
ในการหาเทมโป้ที่เหมาะสมหากมีโอกาสนักกอล์ฟควรทดสอบกับเครื่อง Launch Monitor โดยให้สังเกตที่ค่า Smash Factor (ความเร็วลูกกอล์ฟ / ความเร็วหัวไม้) เทมโป้ที่เหมาะสมจะช่วยสร้างความเร็วหัวไม้ให้สูงขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้หัวไม้ถ่ายเทพลังงานสู่ลูกกอล์ฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และสามารถสวิงได้อย่างสมํ่ำเสมอ
หมายเหตุ : ที่ความเร็ว 90 MPH นักกอล์ฟที่สามารถสร้าง Smash Factor ได้ 1.5 กับ 1.3 จะตีได้ระยะทางต่างกันถึง 54 หลา
5 ลดแรงบีบกริพเพื่อเพิ่มความเร็ว
มีคำสอนจากโปรระดับตำนาน แซม สนีดซึ่งแนะนำเคล็ดลับการตีไกลไว้หลาย 10 ปีมาแล้ว แต่นักกอล์ฟส่วนใหญ่ก็ยังทำไม่ได้ โดยแซมสนีดสอนว่าให้จับกริพให้แผ่วเบา เหมือนจับลูกนกไว้ในมือ โดยแรงบีบจะต้องมากพอไม่ให้นกบินหนีไปได้ แต่ต้องไม่มากเกินไปจนทำให้นกเจ็บ จะทำให้นักกอล์ฟตีได้ระยะทางไกลขึ้น เวลาที่นักกอล์ฟจับกริพแรง จะทำให้แรงเหวี่ยงที่เราอุตสาห์สร้างขึ้นมานั้น ถูกควบคุมด้วยมือของเรา แทนที่จะถูกปล่อยออกไปอย่างอิสระ ซึ่งจะมีความเร็วหัวไม้ในการเข้ากระทบลูกสูงกว่า การบีบจับกริพแรงเกินไป ความเร็วในการสวิงจะถูกจำกัดโดยความแรงที่ใช้ในการบีบ ยิ่งบีบแรงความเร็วในการเข้าอิมแพคก็ยิ่งมีโอกาสลดลงมากเท่านั้น จากการทดลองระหว่างแรงบีบกริพที่พอดีกับแรงเกินไป อาจทำให้ความเร็วหัวไม้ต่างกันราว 5 MPH เมื่อแปลงเป็นระยะทางจะต่างกัน ได้ถึง 22 หลา
วีเจย์ ซิงห์ อดีตมือ 1 โลก จับกริพแผ่วเบามาก จนจังหวะฟอร์โลว์ทรู มือขวาแทบจะหลุดจากกริพ
6 หาเกลียวที่เหมาะสมของตัวเอง
นักกอล์ฟส่วนใหญ่ทราบดีว่าการสร้างเกลียวโดยการหมุนช่วงบนให้มากกว่าช่วงล่าง จะเกิดเกลียวในการสวิง ช่วยทำให้สามารถสร้างความเร็วหัวไม้ได้สูง ตามสูตรสำเร็จของการสอนกอล์ฟการสร้างเกลียวให้หมุนไหล่ 90 องศา และหมุนสะโพก 45 องศา จะทำให้เกิดการสร้างเกลียวในการสวิง แต่นักกอล์ฟส่วนใหญ่อาจพบปัญหาว่า การสร้างเกลียวแบบนี้อาจจะไม่ได้ทำได้ทุกคน ทั้งนี้ทั้งนั้นสรีระหรือความยืดหยุ่นของเราอาจจะทำไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นคือนักกอล์ฟพยายามหมุนไหล่ให้ได้ 90 องศาหรือมากกว่านั้น โดยที่ไม่ได้สังเกตว่าสะโพกก็หมุนตามไปด้วย จนแทบที่จะเรียกได้ว่าเกิดสภาวะไม่มีเกลียวเกิดขึ้น แต่นักกอล์ฟรู้สึกว่ามีเกลียวแล้ว และเมื่อตีไม่ไกลก็จะเพิ่มเกลียวโดยการหมุนไหล่มากขึ้นไปอีก จนโอเวอร์สวิง ซึ่งสิ่งที่ทำกลับทำไปโดยศูนย์เปล่า และไปทำให้ความแน่นอนในการสวิงลดลง
เมื่อสรีระและความยืดหยุ่นของร่างกายนักกอล์ฟต่างกัน นักกอล์ฟแต่ละคนจึงต้องลองหาเกลียวของสวิงตัวเองที่ร่างกายของเรารับไหว เราอาจจะหมุนไหล่ไม่ถึง 90 องศา แต่มันมีประสิทธิภาพและมีความเป็นเกลียวที่พอดี สำหรับเรื่องนี้นักกอล์ฟอาจจะยืนสวิงที่หน้ากระจก แล้วลองหมุนไหล่โดยพยายามขืนสะโพกไว้ไม่ให้หมุนไปเท่ากับการหมุนไหล่ แล้วลองดูว่าร่างกายเราสามารถรับได้มากน้อยขนาดไหน การแบ็คสวิงอาจไม่ต้องถึงกับขึ้นไม้ให้ขนานกับแนวราบก็เต็มเกลียวแล้ว ก็ขอให้ขึ้นแบ็คสวิงเพียงเท่านั้นก็พอ จะทำให้เราตีไกล แม่นยำ และเหนื่อยน้อยลง
สังเกตหัวเข็มขัดจะหมุมตามไปด้วย
หัวเข็มขัดไม่ได้หมุนตามไปด้วย แบบนี้เกลียวเต็มกว่า
7.คลายข้อมือเมื่อถึงจังหวะที่จะคลาย
กุญแจสำคัญที่สุดที่แยกนักกอล์ฟสมัครเล่นออกจากโปรหรือนักกอล์ฟฝีมือดี คือจังหวะการคลายข้อมือเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
โดยทั่วไปนักกอล์ฟสมัครเล่นจะรีบคลายข้อมือเร็วเกินไปในช่วงก่อนอิมแพค ทำให้สูญเสียโอกาสในการสร้างความเร็วสูงสุด และกินแรงในช่วงดาวน์สวิง การที่นักกอล์ฟสามารถคลายข้อมือก่อนที่จะเข้าอิมแพคจะทำให้เกิดความเร่งจังหวะ 2 ที่ข้อมือ ช่วยเพิ่มความเร็วในการเข้าอิมแพคให้สูงขึ้น จากการทดสอบนักกอล์ฟที่แบ็คสวิงเดียวกันโดยการตั้งใจคลายข้อมือเร็ว (Early Release) กับคลายข้อมือช่วงใกล้อิมแพค (Delay Hit) พบว่าความเร็วหัวไม้ตอนกระทบลูกต่างกันสูงสุดถึง 10 MPH ซึ่งเมื่อคำนวณเป็นระยะทางจะทำให้ระยะทางต่างกันถึง 40 หลา
ในการซ้อมจังหวะการคลายข้อมือแบบ Delay Hit ให้ลองหา Impact Bag มาลองซ้อมดู จะช่วยฝึกให้นักกอล์ฟเข้าใจถึงจังหวะการ Delay Hit ได้ดีขึ้น
ทั้ง 7 ข้อนี้ คือ เรื่องหลักๆ ที่จะช่วยทำให้ท่านนักกอล์ฟตีไกลขึ้นอย่างแน่นอน ลองดูว่าท่านยังขาดเรื่องไหนไปบ้าง เติมให้เต็ม รับประกันว่า เมื่อทำครบ 7 ข้อสำเร็จ ท่านจะเป็นนักกอล์ฟพลังช้างคนหนึ่งของวงการครับ
เฉลิมวงศ์ บวรกีรติขจร
Chalermwong B.Kajorn
ผู้ดำเนินรายการตอบคำถามอุปกรณ์กอล์ฟ คลื่น FM99 รายการ Golf Trick ทุกวันศุกร์ เวลา 9:00-10:00 น.
ติดตามข้อมูล ความรู้ต่างๆ จากเราได้ที่
https://www.facebook.com/GolferOnlineMag/
https://www.facebook.com/cing8333
https://line.me/R/ti/p/%40golferonline
หรือค้นหาเพื่อนใน line โดยคีย์คำว่า @golferonline
5 / 1 / 2017
Tags : ตีไกล , ไดรฟ 300 หลา , เทคนิคตีไกล , ไดรเวอร์ , Driver , Drivers , Wood , Woods , หัวไม้ , หัวไม้ 1 , FlightScope , LongestDrive , Longest Drive , Long Drive , LongDrive Power PowerTips Power Tips PowerTip PowerTip top5jan2017 top1jan2017 #1jan2017